WHA ชี้ไทยมีเวลาต่อรองภาษีทรัมป์! ย้ำลูกค้าไม่ถอนทุน ออเดอร์พันไร่จ่อเข้า

11 ก.ค. 2568 | 03:20 น.
อัปเดตล่าสุด :11 ก.ค. 2568 | 03:52 น.

WHA จับตาเกมภาษีสหรัฐฯ! ชี้ไทยยังมีเวลา 20 วันเจรจา หากลดเหลือ 20% ไทยอาจกลับมาดึงดูดทุนต่างชาติ ย้ำแต่ไทยต้องไม่เสียเปรียบ หวั่นเกษตรกรย่ำแย่ พร้อมเผย Big Lot จ่อลงทุนพันไร่ ไม่หวั่นสงครามการค้า

นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า จากประเด็นมาตรการภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ยังคงกำหนดภาษีนำเข้าสินค้าไทย 36%

ยังเป็นระดับเดียวกันกับเมื่อช่วงเดือเมษายน 2568 ไม่มีการเปลี่ยนแปลง มองว่าผลบังคับใช้จะเกิดขึ้นในวันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป ทำให้ในช่วงระหว่างนี้ประเทศไทยยังพอมีระยะเวลาเหลืออีกราว 20 วัน ในการเจรจาต่อรองกับสหรัฐฯ

ฉากทัศน์ภาษีสหรัฐฯ

จากการประเมินผลเบื้องต้น หากว่าอัตราภาษีนำเข้าของไทยยังคงอยู่ในระดับที่สูง 36% มองว่าไทยเราอาจสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน และอาจลดทอนความน่าดึงดูดใจในการลงทุนในสายตาของต่างชาติไป ซึ่งทำให้ประเทศไทยต้องเหนื่อยในการทำการค้าการขายในอนาคต

ในขณะที่หากว่าการเจรจาเป็นผลและสามารถลดอัตราภาษีนำเข้าได้ลงเหลือที่ระดับราว 20-25% ก็จะเป็นผลดีกว่า โดยเฉพาะในเรื่องของความสามารถในการแข่งขันที่ไทยเรายังคงทำพอได้ ส่วนความน่าสนใจในการลงทุนนั้น ก็คงต้องขึ้นอยู่กับความต้องการย้ายฐานผลิตของต่างชาติโดยเฉพาะจากจีน รวมถึงมาตรการทางภาษีของไทยที่จะดึงดูดใจในการเข้าลงทุนมากน้อยแค่ไหน

และหากว่าอัตราภาษีจะลดต่ำลงกว่า 15% แม้อาจเป็นเรื่องยาก แต่ที่สำคัญไปมากกว่านั้น คือ ไทยจะเสียเปรียบทางการค้าอย่างมาก เพราะว่าที่เวียดนามจะเจรจาต่อรองกับสหรัฐฯ ก็พยายามอย่างหนักถึง 4 ครั้ง เรียกว่า "เทหมดหน้าตัก" ในการทำการค้ากับสหรัฐฯ

WHA ชี้ไทยมีเวลาต่อรองภาษีทรัมป์! ย้ำลูกค้าไม่ถอนทุน ออเดอร์พันไร่จ่อเข้า

ไทยต้องไม่เสียเปรียบ...

ล่าสุดไทยได้เสนอลดภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ กว่า 90% ของรายการที่นำเข้า ยกเว้นบางกลุ่มสินค้าที่จำเป็นต้องคงภาษีไว้ เพื่อปกป้องผู้ประกอบการไทยและรักษาสมดุลการค้ากับประเทศที่ไทยมีข้อตกลง FTA ซึ่งพยายามทำให้เกิดความสมดุลทางการค้าตามข้อเรียกร้องของสหรัฐฯ นั้น

มองว่าภาครัฐฯ อาจต้องช่างน้ำหนักให้ดี การเจรจาต่อรองการค้าของทางสหรัฐฯ ที่เรียกร้องเยอะไป ก็อาจทำให้ไทยเสียเปรียบ การปลดล็อกโควต้าสินค้าเกษตรจะยิ่งทำให้เกษตรกรยากลำยากมากยิ่งขึ้น

"การที่ภาครัฐฯ เอื้อประโยชน์ทางการค้าให้กับสหรัฐฯ มากเกินไป อาจกระทบต่อเศรษฐกิจในประเทศ เสนอลดภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ กว่า 90% ของรายการที่นำเข้า ปลดล็อกโควต้าสินค้าเกษตร อาจทำให้เกษตรกรไทยจะลำบาก ต้องไม่ลืมว่าก่อนหน้านี้ผู้ประกอบการไทยก็โดยการถล่มตลาดของสินค้าราคาถูกจากต่างประเทศไปแล้ว ผู้ประกอบการไทยและเกษตรกรจะยิ่งบอบช้ำไปหรือไม่ สหรัฐฯ เรียกร้องเยอะ ไทยจะเสียเปรียบ ต้องช่างน้ำหนัก โดยเฉพาะในเรื่องการเพิ่มศักยภาพให้กับผู้ประกอบการไทยและธุรกิจต่างๆ ร่วมด้วย"

อย่างไรก็ตาม การประเมินสถานการณ์ในตอนนี้คงจะเร็วเกินไป เพราะยังมีเวลาให้เจรจาต่อรองอีกเกือบ 20 วัน จนกว่าจะครบกำหนดบังคังใช้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 ขณะเดียวกันก็ยังต้องรอดูบทสรุปของอัตราภาษีของนานาประเทศด้วยว่าจะอยู่ที่ระดับเท่าไหร่

โดยเฉพาะประเทศจีน ที่เรียกได้ว่าสหรัฐฯ โจมตีในเรื่องภาษีค่อนข้างหนัก และกวนน้ำให้ขุ่นอย่างต่อเนื่อง หากว่าจีนโดนภาษีในระดับสูงต่อไป โอกาสในการย้ายฐานการผลิตออกมายังไทยและเวียดนามก็มีอยู่มาก ขึ้นอยู่กับว่าท้ายที่สุดการเคาะผลสุดท้ายของการเก็บภาษีสหรัฐฯ จะออกมาในรูปแบบใด ส่วนผลกระทบก็ขึ้นอยู่กับรายผลของแต่ละอุตสาหกรรม

WHA ตุนสัญญาซื้อที่กว่าพันไร่

ทั้งนี้ จากการสำรวจความเห็นของลูกค้าทั้งรายเดิมที่มีการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมอยู่แล้ว และลูกค้าใหม่ที่จะเข้ามาลงทุน ปัจจุบันยังไม่มีรายใดที่ถอนการลงทุนไป เพราะแผนการลงทุนเป็นการวางแปนมาอย่างชัดเจนแล้ว โดยเฉพาะลูกค้ารายเดิม หากต้องย้ายฐานผลิตไปยังประเทศใหม่ อาจต้องใช้ระยะเวลา 2-3 ปี กว่าที่จะเริ่มดำเนินการธุรกิจได้ เนื่องจากการก่อสร้างและติดตั้งเครื่องจักรต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร

ขณะที่ลูกค้าใหม่ยังคงมีการเจรจาเข้ามาเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีลูกค้าที่เซ็นสัญญาเจตจำนง (LOI) อยู่ในมือแล้วมากกว่า 1,000 ไร่ โดยมีลูกค้ารายใหญ่ต่างชาติที่ต้องการที่ดินจำนวนมาก (Big lot) จำนวน 2 ราย มีรายแรกต้องการที่ดินจำนวนกว่า 500 ไร่ และอีกรายต้องการใช้ที่ดินราว 400 ไร่

สำหรับผลกระทบต่อ WHA นั้น ลูกค้าของนิคมอุตสาหกรรม WHA ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มยานยนต์ (Auto) อีกทั้งยังเป็นกลุ่มที่ผลิตยานยนต์พวงมาลัยรถฝั่งขวา ที่ส่งออกไปยังทั่วโลก และไม่มีได้มีสหรัฐฯ เป็นตลาดการส่งออกหลัก ดังนั้นจึงไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีการค้าของสหรัฐฯ ต่อไทย

ขณะเดียวกันกลุ่มลูกค้าที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมดาต้าเซ็นเตอร์ (Data Center) ที่มีความต้องการชิปเป็นส่วนประกอบสำคัญในหลายหน่วยของธุรกิจ ดังนั้นการผลิตเกือบทั้งหมดพื่อในธุรกิจ Data Center ปัญหาเรื่องการส่งออกและภาษีตอบโต้ที่ปรับขึ้น จึงไม่กระทบต่อธุรกิจ

โดย WHA วางแผนภายในระยะ 4-5 ปี จะขยายพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมในประเทศเวียดนามอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายจะเพิ่มนิคมฯ เป็น 5 แห่ง เป็นแผนการกระจายความเสี่ยงของธุรกิจเดิมอยู่แล้ว ทำให้ยังไม่มีต้องมีการปรับใหม่

อีกทั้งด้วยธุรกิจ WHA ที่มีอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะโลจิสติกส์ (Logistic) ที่ในปัจจุบันยังมีอัตราการเติบโตที่ค่อนข้างดี หรือธุรกิจสาธารณูปโภค (Utilities) มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีเช่นเดียวกัน ยิ่งการมาของ Data Center ทำให้ความต้องการใช้น้ำ และไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น

"จากการดำเนินธุรกิจที่มีความหลากหลาย ทำให้ช่วยกระจายความเสี่ยงจากการกระจุกตัวของรายใดจากกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งออกไปได้ และเชื่อมั่นว่าธุรกิจอื่นๆ ที่มีจะเข้ามาช่วยชดเชยรายได้จากฝั่งธุรกิจนิคมฯ ที่หายไปได้"