ความเคลื่อนไหว หุ้นไทย วันนี้ (3 ก.ค.68) ดัชนี SET Index ปิดที่ระดับ 1,127.21 จุด เพิ่มขึ้น 11.52 จุด หรือเปลี่ยนแปลง 1.03% ในช่วงระหว่างวันดัชนีแกว่งตัวในกรอบสูงสุดและต่ำสุดที่ระดับ 1,127.66 - 1,113.77 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมทั้งสิ้น 34,920.97 ล้านบาท
หากแบ่งมูลค่าตามประเภทนักลงทุน พบว่า กลุ่มสถาบัน เป็นเพียงกลุ่มเดียวที่มีสถานะซื้อสุทธิ 1,030.38 ล้านบาท ขณะที่กลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ นักลงทุนต่างชาติ และนักลงทุนในประเทศ มีสถานะขายสุทธิรวมที่ 1,030.38 ล้านบาท แบ่งเป็น 139.61 ล้านบาท, 63.26 ล้านบาท และ 827.51 ล้านบาท ตามลำดับ
บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) วิเคราะห์ ตลาดหุ้นไทยวันนี้ ว่า บรรยากาศการลงทุนหุ้นไทยในวันนี้ (3 ก.ค.) มีทิศทางที่สดใสขึ้น โดยประเด็นการเมืองในประเทศแรงกดดันมีน้ำหนักที่ลดลง หลังจากรักษาการนายกฯ เข้าถวายสัตย์วันนี้ทำให้ ครม. ชุดใหม่เริ่มปฏิบัติงานได้ รวมถึงพรรคภูมิใจล่าสุด เผยว่าจะไม่ยื่นญัติไม่ไว้วางใจนายกฯ ลดความร้อนแรงเกมส์การเมืองในสภาได้บ้าง
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นไทยยังได้แรงเชิงบวกจากความคืบหน้าข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ-เวียดนาม โดย "ทรัมป์" เผยว่า เวียดนามจะจ่ายภาษีนำเข้าสหรัฐฯ 20% สำหรับสินค้าทุกชนิด และหากมีการส่งผ่าน (Transshipping) จะจ่ายภาษีเป็น 40%
ขณะที่สินค้าที่สหรัฐฯ ที่ส่งออกเวียดนามไม่เสียภาษี การเก็บภาษีนำเข้าเวียดนาม 20% ถือเป็นการลดจากระดับภาษีตอบโต้ที่สหรัฐฯ เคยประกาศเดือน เม.ย. ที่ 46% กว่าครึ่งหนึ่ง
ส่วนบ้านเราที่วันนี้ติดตาม คณะเจรจาไทยหารือข้อเสนอภาษีกับสหรัฐฯ ช่วง 21.00 น. ประเมินว่าหากไทยสามารถลดภาษีลงมาในระดับ 10-20% (เดิมสหรัฐฯ ประกาศเก็บภาษีตอบโต้ไทย 36%) ถือเป็นระดับที่ไม่เสียเปรียบเมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่างเวียดนามและจีน (จีนถูกเก็บ 55%) พร้อมกันนี้ หากมีการใช้ภาษีส่งผ่าน (Transshipping) คาดช่วยลดปัญหา เรื่องการสวมสิทธิ์จากจีนได้อีกทางหนึ่ง
สำหรับหุ้นไทยที่ได้ประโยชน์หากมีความคืบหน้าเจรจาการค้า คือ กลุ่มนิคม WHA กลุ่มส่งออก CCET GFPT ขณะที่ประโยชน์ทางอ้อม หากสหรัฐฯ สามารถเจรจาการค้ากับประเทศอื่นๆ ได้คาดบวกต่อกลุ่มพลังงาน PTTEP SPRC กลุ่มโรงไฟฟ้า (ประโยชน์ทางอ้อมจาก FED ลดดอกเบี้ยง่ายขึ้น) CKP BCPG