จับตา ศาล รธน. พิจารณาคดีจริยธรรมนายกฯ กดดันตลาดหุ้นไทย

ตามคำร้องที่ นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ยื่นให้ศาลพิจารณาในนามของสมาชิกวุฒิสภาจำนวน 36 คน ต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณี น.ส.แพทองธาร กระทำการฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ซึ่งการประชุมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนัดถัดไปในวันที่ 1 กรกฎาคม

นายประกิต สิริวัฒนเกตุ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนเมอร์ชั่นพาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองต่อเรื่องดังกล่าวว่า มองปัจจัยดังกล่าวอาจเป็นคลื่นที่เข้ามากระทบตลาดหุ้นไทยในช่วงที่กำลังมีความเปราะบาง

ด้วยคลิปเสียงสนทนาระหว่างนายกฯ และฮุน เซน ที่ออกมาเป็นกระแสเชิงลบในสังคม ทำให้มีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในรัฐบาลชุดนี้ลดลงอย่างมาก จึงมองว่าแรงกระเพื่อมที่สะท้อนในครั้งนี้อาจหนักกว่าเมื่อครั้งของนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน

หากว่าคำตัดสินออกมาให้หยุดปฎิบัติหน้าที่ และมีการยุบสภา เศรษฐกิจไทยดิ่งเหวแน่นอน เพราะกว่าที่จะมีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ เปิดประชุมสภา ร่างกฎหมาย ก็ใช้เวลาไปเกือบ 1 ปีเต็ม ดังนั้นกว่าที่จะเคาะงบประมาณภาครัฐออกมาใหม่ อาจเลยไปถึงปลายปี 69 ซึ่งนำไปสู่ช่วงสูญญากาศอีกครั้ง

ทั้งนี้ เชื่อว่าเหตุการณ์ยุบสภาอาจยังไม่เกิดขึ้นในเร็วๆ นี้แน่ แต่จะก่อนหรือหลังงบประมาณปี 69 ออกนั้น ก็อาจยังต้องจับตารอดูกันต่อ ส่วนตัวมองว่าหากงบประมาณปี 69 ถูกเคาะออกมาแล้ว ท้ายที่สุดจะมีการยุบสภา เลือกตั้งครั้งใหม่ แรงสะท้อนที่กลับมายังตลาดหุ้นไทยจะน้อยกว่ามาก

การเมืองกดดันการลงทุน

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด (Liberator) กล่าวว่า แน่นอนว่าในวันที่ 1 ก.ค.68 ซึ่งเป็นวันชี้ชะตา นายกฯ แพทองธาร มีความเสี่ยงที่จะกดดันบรรยากาศการลงทุนของตลาดหุ้นไทย

เพราะเป็น Sentiment ต่อความเชื่อมั่น ทั้งเศรษฐกิจประเทศไทย รวมถึงตลาดทุน ด้วยความเชื่อมั่นของรัฐบาลชุดนี้ที่ยังไม่ถูกปลดล็อกอย่าง 100% ส่วนการยุบสภานั้น เชื่อว่าคงยังไม่ได้เห็นในระยะสั้นนี้ และมองว่าอย่างน้อยรัฐบาลจะเร่งผลักดันงบประมาณปี 69 ให้แล้วเสร็จก่อน

"ต้องยอมรับว่าปัจจัยทางการเมืองก็มีส่วนสำคัญต่อบรรยากาศการลงทุน จะเห็นได้ว่าหลังจากที่มีคลิปเสียงสนทนาของนายกฯ ออกมาตลาดหุ้นปรับตัวลดลงหนัก ดังนั้นจึงเชื่อได้ว่าการพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 1 ก.ค. นี้ก็อาจเป็นแรงกดดันตลาดหุ้นไทยด้วยเช่นเดียวกัน"