หุ้น AOT ร่วง 7.03% หลังข่าว "คิงเพาเวอร์" ยื่นยกเลิกสัญญาดิวตี้ฟรี

ตลาดหุ้นไทยวันนี้ 13 มิ.ย.68 ปิดตลาดที่ระดับ 1,122.70 จุด ลดลง 5.92 จุด หรือเปลี่ยนแปลง 0.52% ในช่วงระหว่างวันดัชนีแกว่งตัวในกรอบสูงสุดและต่ำสุดที่ระดับ 1,127.29 - 1,118.59 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 42,301.91 ล้านบาท

หากแบ่งมูลค่าการซื้อขายตามประเภทนักลงทุน พบว่า กลุ่มสถาบันและบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ มีสถานะขายสุทธิรวม 1,845.2 ล้านบาท แบ่งเป็น 1,630.70 ล้านบาท และ 214.50 ล้านบาท ขณะที่กลุ่มนักลงทุนต่างประเทศและในประเทศ มีสถานะซื้อสุทธิ 1,845.2 ล้านบาท แบ่งเป็น 329.89 ล้านบาท และ 1,515.31 ล้านบาท ตามลำดับ

โดย 5 หุ้นมูลค่าการซื้อขายสูงสุดในวันนี้ พบว่า ราคาหุ้น บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT เป็นเพียงตัวเดียว ที่ถูกขายสูงสุด ใน 5 อันดับ ซึ่งปิดตลาดที่ระดับ 29.75 บาท ลดลง 2.25 บาท หรือเปลี่ยนแปลง 7.03% ในช่วงระหว่างวันราคาหุ้นแกว่งตัวกรอบสูงสุดและต่ำสุดที่ระดับ 31.75 - 28.50 บาท มีมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 4,088.11 ล้านบาท

ในขณะที่อีก 4 หุ้น ยืนแดนบวกทั้งหมด ได้แก่

• PTTEP ราคา 113.00 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท เปลี่ยนแปลง 7.62% มูลค่าซื้อขาย 3,845.48 ล้านบาท
• KBANK ราคา 152.50 บาท โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากปิดตลาดก่อนหน้า มีมูลค่าซื้อขาย 3,776.44 ล้านบาท
• PTT ราคา 30.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท เปลี่ยนแปลง 1.65% มูลค่าซื้อขาย 2,817.14 ล้านบาท
• DELTA ราคา 99.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท เปลี่ยนแปลง 2.31% มูลค่าซื้อขาย 1,413.07 ล้านบาท

ทั้งนี้ การปรับตัวลดลงของราคาหุ้น AOT วันนี้ หลังมีกระแสข่าวว่า บริษัท คิงเพาเวอร์ ยื่นหนังสือถึง ยกเลิกสัญญาดิวตี้ฟรีกับ AOT ใน 3 สนามบินหลักได้แก่ ภูเก็ต เชียงใหม่ และหาดใหญ่

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คิง เพาเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้เผยว่า คิง เพาเวอร์ ได้ยื่นหนังสือขอเจรจาเพื่อยกเลิกสัญญาดิวตี้ฟรีกับ AOT ใน 3 สนามบิน ให้ AOT พิจารณา เมื่อช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา ก่อนที่ตนจะเข้ามารับตำแหน่ง

โดย AOT ทำสัญญากับ บริษัทบริษัท คิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด สำหรับกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานทั้ง 2 แห่งดังกล่าว สัญญาที่ ทอท.DF-1-02/2562 ลงวันที่ 4 ก.ค. 2562 มีอายุสัญญา 10 ปี 6 เดือน ระหว่างวันที่ 28 กันยายน 2563 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2574 ผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำ ปีแรก 2,331 ล้านบาท 

ต่อมาแก้ไขสัญญา 2 ครั้ง คือวันที่ 17 พฤศจิกายน 2563 และวันที่ 26 สิงหาคม 2565 ล่าสุดปรับอายุสัญญาเป็นระหว่างวันที่ 28 กันยายน 2563 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2576 จากสถานการณ์โควิด-19 ทอท.ได้ปรับเปลี่ยนวิธีการคำนวณค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำ มาเป็นผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำต่อผู้โดยสาร (Sharing Per Head) จำนวน 127.30 บาท

ที่เรียกเก็บจากผู้โดยสารขาออก ผู้โดยสารผ่าน และผู้โดยสารขาเข้า แต่ผลกระทบโควิด-19 ยังไม่คลี่คลาย ก็มีเหตุสงครามในหลายภูมิภาค สงครามการค้า และการกีดกันทางการค้า กำแพงภาษี การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ทำให้อัตราเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัว

จากเหตุผลข้างต้นนั้น ทำให้คิงเพาเวอร์ตัดสินใจยื่นหนังสือขอยกเลิกสัญญา รวมทั้งเหตุสุดวิสัยทั้งหมดส่งผลต่อยอดจำหน่ายและการประกอบการ ทำให้ค่าตอบแทนที่บริษัทต้องจ่ายให้ ทอท.อยู่ในเกณฑ์สูงกว่าที่ควรจะเป็นและที่ได้เสนอไว้ ซึ่งผลกระทบต่างๆ ทำให้คิงเพาเวอร์ประสบกับภาวะขาดทุน จากแบกรับภาระอัตราค่าตอบแทนที่สูงผิดปกติ และไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงของสถานการณ์

ทั้งนี้ คิงเพาเวอร์ยังระบุถึงสาเหตุของการขอยกเลิกสัญญาด้วยว่า เหตุสุดวิสัยนั้นไม่ได้เกิดจากการกระทำหรือความผิดจากบริษัท แต่ในทางกลับกับ ทอท. กลับพิจารณาและดำเนินการตามที่เห็นสมควรเพียงและเป็นประโยชน์แก่ ทอท. เพียงฝ่ายเดียว ไม่ได้หารือบริษัทเพื่อหาแนวทางเก้ไขที่เหมาะสมต่อทั้งสองฝ่าย

และด้วยเหตุต่างๆ ที่ยังไม่คลี่คลาย บริษัทฯ จึงมีความจำเป็นต้องขอหารือร่วมทั้งสองฝ่ายเพื่อหาข้อยุติของปัญหา รวมไปถึงแนวทางพิจารณาเลิกสัญญา เพื่อให้ได้ข้อยุติภายใน 45 วัน