นายวิน พรหมแพทย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยในงานสัมนา "Thailand Investment Forum 2025: Great Depression พลิกเกมฝ่าวิกฤติ" จัดโดย ฐานเศรษฐกิจ กรุงเทพธุรกิจ และโพสต์ทูเดย์ ในหัวข้อ “Growth Stock Im-Depth : Strategies for Success ว่า
คำแนะนำในการปรับพอร์ตการลงทุนหุ้นนั้น ให้ลงทุนในคอร์พอร์ต ( Core Portfolio) จำนวน 80 % โดยกระจายการลงทุนในสินทรัพย์หุ้น ,ตราสารหนี้ และการลงทุนทางเลือก เช่น ทองคำ เพื่อรองรับความผันผวน หรือคลื่นพายุเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังให้ได้
ส่วนอีก 20% เป็นการลงทุนแบบแซทเทิลไลท์ พอร์ต (Satellite Portfolio) ที่เป็นหุ้นรายประเทศ ,หุ้นรายเซ็กเตอร์ โดยมองว่าปัจจุบันตลาดหุ้นยังเบาใจกับนโยบายภาษีของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกามากเกินไป ดังนั้นแนะนำให้นักลงทุนคงสัดส่วนการลงทุนไว้ก่อน รอจังหวะให้ตลาดลงแรงก่อนหลังจากนั้นจึงเข้าไปลงทุน
ขณะที่การลงทุนในหุ้นไทยนั้นต้องเลือกหุ้นที่มีการปันผลสูง เพราะตลาดหุ้นในประเทศไทยมีความน่าสนใจอยู่ที่การลงทุนในหุ้นที่มีการปันผลดี โดยเมื่อวิเคราะห์ถึงอนาคตการเติบโตของตลาดหุ้นใน 10 ปีข้างหน้าพบว่าการเติบโตอยู่ที่ 5% มีเพียง 1% ที่มีการเติบโตจริง ที่เหลือ 4% เติบโตจากการปันผล และนี่คือเสน่ห์ของหุ้นไทย
อย่างไรก็ดี หากถามว่าประเทศใดน่าสนใจลงทุนมากที่สุด คงต้องเรียนว่ายังไม่ต้องการรีบฟันธง แต่ถ้าจะให้น้ำหนักเล็กน้อยก็คือ อินเดีย และจีน
ด้านภาพใหญ่แนะนำให้เพิ่มน้ำหนักในเรื่องตราสารหนี้ ทั้งไทยและต่างประเทศ ขณะที่ทองคำต้องมองในภาพยาวถึงจะน่าสนใจ ส่วนระยะสั้นต้องระมัดระวังในการลงทุน