JKN ออกตัวรับทราบการกล่าวโทษ ก.ล.ต. แจง แอน จักรพงษ์-พิมพ์อุมา ลาออกแล้ว

06 มิ.ย. 2568 | 04:33 น.
อัปเดตล่าสุด :06 มิ.ย. 2568 | 04:33 น.

JKN แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ รับทราบข้อกล่าวโทษจาก ก.ล.ต. กรณีตกแต่งงบการเงิน ชี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ พร้อมเผย แอนจักรพงษ์ และน้องสาว พิมพ์อุมา ยื่นลาออกจากตำแหน่ง มีผล 5 มิ.ย.

บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เรื่อง รับทราบการกล่าวโทษของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และการลาออกของกรรมการ โดยมีรายละเอียดดังนี้

ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) ได้เผยแพร่ข่าวฉบับที่ 139/2568 ในวันที่ 5 มิถุนายน 2568 โดยได้กล่าวโทษผู้กระทำความผิด 3 ราย ได้แก่ (1) บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ("บริษัท") (2) นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ และ (3) นางสาวพิมพ์อุมา จักราจุฑาธิบดิ์ ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI)

กรณีร่วมกันกระทำหรือยินยอมให้มีการลงข้อความเท็จ และ/หรือทำบัญชีไม่ครบถ้วน ไม่ถูกต้อง และไม่ตรงต่อความเป็นจริงในงบการเงินประจำปี 2566 และเอกสารบัญชีสำหรับงวดไตรมาส 1 ปี 2567 ของ บริษัทนั้น 

บริษัทขอเรียนให้ทราบว่า บริษัทได้รับทราบการกล่าวโทษของสำนักงาน ก.ล.ต. ดังกล่าวแล้ว และอยู่ระหว่าง การพิจารณารายละเอียดที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดแนวทางในการปฏิบัติที่เหมาะสมตามกระบวนการของกฎหมายต่อไป 

ในการนี้ บริษัทขอเรียนให้ทราบว่า ปัจจุบันบริษัทยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (Special Audit) โดยบริษัทสำนักงาน ดร.วิรัช แอนด์ แอสโซซิเอทส์ จำกัด (ผู้สอบบัญชีอิสระ) เพื่อตรวจสอบความมีอยู่จริงของลิขสิทธิ์ รายการและเจ้าหนี้ค่าลิขสิทธิ์ตามที่บริษัทได้เรียนให้ท่านทราบมาโดยตลอด ซึ่งบริษัทคาดว่า ผู้สอบบัญชีอิสระจะดำเนินการตรวจสอบเสร็จสิ้นโดยเร็ว

นอกจากนี้ บริษัทขอเรียนให้ทราบว่า คุณจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ และคุณพิมพ์อุมา จักราจุฑาธิบดิ์ ได้มีหนังสือลาออกมายังบริษัท เพื่อลาออกจากตำแหน่งกรรมการ กรรมการชุดย่อย และผู้บริหารของบริษัท โดยให้มีผลนับตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป ซึ่งบริษัทจะจัดประชุมคณะกรรมการบริษัทเพื่อมีมติในเรื่องที่เกี่ยวข้องต่อไป

ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าใดๆ เพิ่มเติม บริษัทจะเรียนแจ้งให้ท่านทราบผ่านระบบเผยแพร่ข้อมูลของตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไป

ก.ล.ต.ลงดาบ แอน-น้องสาว

อย่างไรก็ตาม วานนี้ (5 มิ.ย.68) ทาง ก.ล.ต. ได้เปิดเผยการกล่าวโทษผู้กระทำความผิด 3 ราย ได้แก่ JKN จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ (แอน) และน้องสาว พิมพ์อุมา จักราจุฑาธิบดิ์ ต่อ DSI กรณีตกแต่งงบการเงินของ JKN โดยให้รายละเอียดว่า ข้อสังเกตเกี่ยวกับธุรกรรมการซื้อลิขสิทธิ์รายการ (content) ที่ไม่สมเหตุสมผลทางการค้าหลายประเด็น ได้แก่ การซื้อลิขสิทธิ์ในปี 2567 ซ้ำกับลิขสิทธิ์เดิมที่มีอยู่แล้วและยังไม่หมดอายุสิทธิ์

การซื้อลิขสิทธิ์เพิ่มจำนวนมากทั้งที่มีลิขสิทธิ์เดิม และ JKN ขาดสภาพคล่อง การสั่งซื้อบางรายการอาจไม่มีจริง เอกสารการบันทึกบัญชีไม่สมบูรณ์ และเอกสารการสั่งซื้อลิขสิทธิ์ไม่สอดคล้องกับข้อมูลที่ผู้สอบบัญชีได้มาจากการตรวจสอบ เป็นเหตุให้ผู้สอบบัญชีไม่สามารถแสดงความเห็นต่องบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะกิจการประจำปี 2566 ของ JKN

ก.ล.ต. ได้ตรวจทานข้อมูลในงบการเงินประจำปี 2563 – 2566 ของ JKN พบว่า สินทรัพย์ประเภทลิขสิทธิ์มีจำนวนเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก ซึ่งไม่สอดคล้องกับรายได้จากการขายลิขสิทธิ์ของ JKN และยอดลูกหนี้การค้า ณ สิ้นปีมีมูลค่าใกล้เคียงหรือสูงกว่ารายได้ค่าลิขสิทธิ์ น่าเชื่อว่า การขายลิขสิทธิ์ในแต่ละปี JKN ไม่สามารถเก็บเงินจากลูกหนี้การค้าได้ หรือเก็บเงินได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

จึงมีประเด็นสงสัยความสมเหตุสมผลของการซื้อลิขสิทธิ์และความมีอยู่จริงของลิขสิทธิ์รายการ รวมทั้งความมีตัวตนอยู่จริงของลูกหนี้การค้าและการขายลิขสิทธิ์ให้ลูกหนี้การค้า โดยปรากฏข้อเท็จจริงที่พิจารณาได้ว่าผู้กระทำความผิด 2 ราย
นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
นางสาวพิมพ์อุมา จักราจุฑาธิบดิ์ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการสายงานคอนเทนต์

ได้ร่วมกันสั่งการหรือกระทำการสร้างรายการเจ้าหนี้ปลอมและลูกหนี้ปลอม เพื่อนำไปบันทึกในสมุดบัญชีและงบการเงินงวดประจำปี 2566 และเอกสารบัญชีสำหรับงวดไตรมาส 1 ปี 2567 และเอกสารหรือรายงานอื่นที่เกี่ยวข้องของ JKN

ส่งผลให้งบการเงินของ JKN แสดงยอดรายได้และหนี้สินสูงกว่าที่ควรจะเป็น อีกทั้งยังพบการบันทึกบัญชีเจ้าหนี้ค่าลิขสิทธิ์ไม่ถูกต้องตามงวดที่เกิดขึ้นจริง การกระทำดังกล่าวส่งผลให้งบการเงินปี 2566 ของ JKN แสดงยอดหนี้สินและสินทรัพย์น้อยกว่าความเป็นจริง

แต่นำเจ้าหนี้การค้ามาบันทึกบัญชีในปี 2567 เพื่อลวงบุคคลใดๆ ว่าในปี 2567 JKN มีเจ้าหนี้การค้าเพิ่มขึ้น และนำเจ้าหนี้การค้าดังกล่าวไปใช้สิทธิออกเสียงเพื่อเลือกผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการของ JKN ซึ่งเป็นการกระทำความผิดตามมาตรา 312 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ 

นอกจากนี้ JKN โดยนายจักรพงษ์ ได้ส่งหรือเปิดเผยงบการเงินประจำปี 2566 และแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปีที่มีงบการเงินเท็จดังกล่าว ต่อ ก.ล.ต. จึงเป็นการกระทำความผิดตามมาตรา 281/10 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ

พร้อมกันนี้ กรณีที่กล่าวโทษในครั้งนี้ ก.ล.ต. ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบขยายผลไปยังกรณีอื่น ๆ ที่มีข้อสงสัย โดยจะประสานความร่วมมือกับ DSI ซึ่งหากดำเนินการแล้วเสร็จ จะมีการเปิดเผยให้ทราบต่อไป