"ดุสิตธานี" ประชุมผู้ถือหุ้น 28 พ.ค. ข้ามปมร้อนงบ 67 ที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ไม่อนุมัติ

15 พ.ค. 2568 | 08:31 น.
อัปเดตล่าสุด :15 พ.ค. 2568 | 08:40 น.

ดุสิตธานี แจ้งประชุมผู้ถือหุ้นรอบใหม่ 28 พ.ค. เริ่มวาระที่ 3 โดยไม่มีการพิจารณางบการเงินปี 67 อีก อ้างได้มีการออกเสียงลงคะแนนเรียบร้อยแล้ว แม้ก่อนหน้านี้ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ไม่อนุมัติงบ

เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT มีหนังสือแจ้งประชุมสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 32/2568 จากเดิมที่จัดประชุมเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2568 เป็นวันพุธที่ 28 พฤษภาคม 2568 เวลา 10.00 น. ในรูปแบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-Meeting) เพียงรูปแบบเดียวเท่านั้น เนื่องจากการประชุมครั้งก่อนยังพิจารณาระเบียบวาระต่างๆ ไม่แล้วเสร็จตามมาตรา 105 วรรค 3 แห่งพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด

ประเด็นที่น่าสนใจคือ ในหนังสือเชิญประชุมฉบับใหม่ระบุว่า วาระที่จะประชุมในวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 จะเริ่มตั้งแต่วาระที่ 3 เป็นต้นไป โดยไม่มีการพิจารณาวาระที่ 1 และวาระที่ 2 อีก ซึ่งวาระที่ 2 เรื่องพิจารณาอนุมัติงบการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2567 บริษัทระบุว่า "ได้มีการออกเสียงลงคะแนนเรียบร้อยแล้ว" แต่ไม่ได้ชี้แจงผลการลงคะแนนว่าได้รับการอนุมัติหรือไม่

ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า "ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ดุสิตธานีไม่อนุมัติงบปี 67 เลื่อนประชุมผู้ถือหุ้นเป็น 28 พ.ค." ซึ่งสร้างความกังวลให้กับผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสีย จนบริษัทต้องออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2568 ยืนยันว่า "งบการเงินที่ไม่ได้รับความเห็นชอบจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่เป็นงบการเงินที่จัดทำขึ้นอย่างถูกต้อง โดยได้รับการตรวจสอบว่าจัดทำตามมาตรฐานบัญชี และเป็นงบการเงินที่ผู้สอบบัญชีตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว และแสดงความเห็นแบบไม่มีเงื่อนไข"

จากแถลงการณ์ของบริษัท ระบุว่า กำลังดำเนินการอย่างรอบคอบเพื่อหาทางออกที่เหมาะสม โดยยึดถือผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นโดยรวมเป็นสำคัญ และเลื่อนประชุมไปเป็นวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ตามคำแนะนำของที่ปรึกษากฎหมาย เพื่อให้มีการหารือกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เพื่อสร้างความเข้าใจในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ยังไม่มีคำตอบชัดเจนคือ เมื่อผู้ถือหุ้นรายใหญ่ไม่อนุมัติงบการเงินปี 2567 แล้ว บริษัทจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เพราะในหนังสือเชิญประชุมไม่ได้ระบุว่าจะมีการนำเสนองบการเงินให้พิจารณาใหม่  แต่กลับระบุว่าได้มีการออกเสียงลงคะแนนเรียบร้อยแล้ว ประเด็นที่น่าติดตามคือการประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ผู้ถือหุ้นรายใหญ่จะมีท่าทีอย่างไร

สำหรับวาระการประชุมที่จะมีการเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาในวันที่ 28 พ.ค. 2568 ได้แก่ การพิจารณาอนุมัติงดจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานปี 2567 เนื่องจากบริษัทมีผลขาดทุนสุทธิในงบการเงินรวมจำนวน 236.8 ล้านบาท และไม่มีการจัดสรรเงินสำรองตามกฎหมายเพิ่มเติม เนื่องจากบริษัทได้จัดสรรเงินสำรองตามกฎหมายไว้แล้วคิดเป็นร้อยละ 10 ของทุนจดทะเบียน ซึ่งครบตามจำนวนที่ต้องสำรองไว้ตามกฎหมายและข้อบังคับของบริษัทแล้ว

นอกจากนี้ยังมีการพิจารณาเลือกตั้งกรรมการแทนกรรมการที่ออกตามวาระจำนวน 4 คน ประกอบด้วย นายอาสา สารสิน กรรมการอิสระและประธานกรรมการ, นางปราณี ภาษีผล กรรมการอิสระและประธานกรรมการตรวจสอบ, นายภควัต โกวิทวัฒนพงศ์ กรรมการอิสระและประธานคณะกรรมการการลงทุน และนายสมประสงค์ บุญยะชัย กรรมการอิสระ กรรมการการลงทุน และกรรมการสรรหาพิจารณาค่าตอบแทนและบรรษัทภิบาล ซึ่งคณะกรรมการบริษัทได้เสนอให้ทั้ง 4 คนกลับเข้าดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการอิสระของบริษัทอีกวาระหนึ่ง แม้ว่านายอาสา สารสิน และนางปราณี ภาษีผล จะดำรงตำแหน่งกรรมการอิสระเกินกว่า 9 ปีแล้วก็ตาม

วาระสำคัญอื่นๆ ประกอบด้วย การพิจารณากำหนดค่าตอบแทนคณะกรรมการปี 2568 เป็นจำนวนรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 9 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับปี 2567 การแต่งตั้งผู้สอบบัญชีและกำหนดค่าตอบแทนปี 2568 โดยเสนอแต่งตั้งผู้สอบบัญชีจากบริษัท เคพีเอ็มจี ภูมิไชย สอบบัญชี จำกัด เป็นผู้สอบบัญชีของบริษัท ด้วยค่าตอบแทน 2,242,000 บาท

นอกจากนี้ยังเสนอให้ผู้ถือหุ้นการพิจารณาอนุมัติการเปลี่ยนแปลงนโยบายการจ่ายเงินปันผล โดยนโยบายใหม่ที่เสนอจะเพิ่มข้อความระบุว่า "กรณีที่งบการเงินรวมมีขาดทุนสะสม บริษัทอาจพิจารณาจ่ายเงินปันผลจากกำไรสะสมตามงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัท" ซึ่งจะมีผลบังคับใช้สำหรับงบการเงินสิ้นสุด 31 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป

ผู้ถือหุ้นสามารถเข้าร่วมประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยผู้ถือหุ้นหรือผู้รับมอบฉันทะต้องยื่นแบบคำร้องเพื่อเข้าร่วมประชุมอีกครั้ง สำหรับผู้ถือหุ้นที่ได้เคยส่งหนังสือมอบฉันทะมาแล้วสำหรับการประชุมเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2568 โดยไม่มีการส่งหนังสือมอบฉันทะฉบับใหม่มาให้บริษัทนั้น บริษัทจะอ้างอิงหนังสือมอบฉันทะฉบับเดิม แต่หากมีการส่งหนังสือมอบฉันทะฉบับใหม่ บริษัทจะอ้างอิงหนังสือมอบฉันทะฉบับใหม่แทนฉบับเดิม