รายงานข่าวจากบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT ระบุว่า ล่าสุดความขัดแย้งระหว่าง 3 ทายาทของท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย ผู้ก่อตั้งโรงแรมดุสิตธานี เกิดปัญหาลุกลาม เกิดความแตกหักขึ้น เมื่อในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปีครั้งที่ 32/2568 ในวันที่ 25 เมษายน 2568 เมื่อลงมติในวาระที่ 2 เรื่องพิจารณาและอนุมัติงบการเงินสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ “บริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด” ซึ่งมีทายาทท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย 3 คน
ได้แก่ "ชนินทธ์ โทณวณิก" "สินี เธียรประสิทธิ์" และ "สุนงค์ สาลีรัฐวิภาค" ถือหุ้นในสัดส่วนใกล้เคียงกัน โดยถือหุ้นในดุสิตธานี รวมกันอยู่ที่ 49.74 % ไม่อนุมัติงบการเงินสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 ซึ่งเป็นงบการเงินที่ได้ผ่านการตรวจสอบและลงนามรับรองโดยผู้สอบบัญชีแล้ว รวมถึงได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ไปแล้วตั้งแต่ปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้จากการที่ผู้ถือหุ้นใหญบางคน อย่าง "สินี" และ "สุนงค์" ไม่อนุมัติงบการเงินปี 2567 ในวาระที่ 2 ซึ่งเป็นวาระปกติที่แจ้งให้ผู้ถือหุ้นอนุมัติตามปกติเป็นประจำทุกปี ส่งผลให้ต้องมีการเลื่อนการประชุมผู้ถือหุ้นออกไปเป็นวันที่ 28 พฤษภาคมนี้
การเลื่อนการประชุมผู้ถือหุ้นออกไป จึงกระทบต่อการพิจารณาในวาระอื่นๆที่รอการอนุมัติอยู่ที่ยังประชุมไม่แล้วเสร็จ โดยเฉพาะวาระการขอมติแต่งตั้งผู้ตรวจสอบบัญชี ส่งผลให้ดุสิตธานี จะไม่สามารถส่งงบการเงินไตรมาส 1 ปี 2568 ได้ทันในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้แน่นอน และจะต้องติดเครื่องหมาย SP (ระงับการซื้อขายหลักทรัพย์เป็นการชั่วคราว)
เนื่องจากต้องรอให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 28 พฤษภาคมนี้ ก่อน เพื่อนำวาระการแต่งตั้งผู้สอบบัญชีของบริษัทฯ เข้าเสนอผู้ถือหุ้น ซึ่งหากผู้ถือหุ้นมีมติแต่งตั้งผู้สอบบัญชีสำหรับรอบปีบัญชี ไตรมาส 1 ปี 2568 ก็จะแจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์รับทราบต่อไป เพื่อปลดเครื่องหมาย SP ส่วนวาระพิจารณาและอนุมัติงบการเงินสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 ที่เป็นปัญหา ก็จะถูกตัดออกไป เพราะถือว่าผู้ถือใหญ่ไม่อนุมัติ ก็ไม่ได้มีผลกระทบแต่อย่างใด
การไม่อนุมัติงบการเงินบริษัทดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) ของบริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด แสดงชัดเจนถึงความแตกหักของทายาทท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย หลังจากเกิดความระหองระแหง กันมานับจากท่านผู้หญิงชนัตถ์ เสียชีวิตไปเมื่อปี 2563
โดย "ชนินทธ์ โทณวณิก" ได้เข้ามาคุมบังเหียนดุสิตธานีเต็มตัว รวมถึงการผลักดันให้ทายาทของตัวเองเข้ามารับผิดชอบในหลายโครงการ และการขยายธุรกิจออกไปหลายด้าน การตั้งบริษัทใหม่แตกแขนงออกไปมากมาย
ประกอบกับที่ผ่านมาเกิดปัญหาโควิด-19 รวมถึงการลงทุนในโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค การปรับโฉมโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ มาหลายปีกว่าจะกลับมาเปิดให้บริการ จากชนวนปัญหาที่สะสมความขัดแย้งในการบริหารงานของดุสิตธานี ระหว่างทายาทของท่านผู้หญิงชนัตถ์ ดูจะรุนแรงขึ้น จนเกิดการงัดข้อกันในการประชุมผู้ถือหุ้นในวันดังกล่าว
ต่อเรื่องนี้ล่าสุด นางสาวมัณฑนี สุรกาญจน์กุล เลขานุการบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โดยระบุว่า บริษัทฯ ได้จัดทำข้อมูลงบการเงินไตรมาส 1/2568 เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม ผู้สอบบัญชีของบริษัทฯ ยังไม่สามารถลงนามรับรองรายงานการสอบทานงบการเงินดังกล่าวได้ เนื่องจากยังไม่ได้รับการแต่งตั้งจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี ครั้งที่ 32/2568 ซึ่งเลื่อนกำหนดประชุมออกไปเป็นวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ซึ่งจะทำให้การส่งงบการเงินไตรมาส 1/2568 ของบริษัทฯ จะล่าช้าออกไป และตลาดหลักทรัพย์จะดำเนินการตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์
โดยการขึ้นเครื่องหมาย SP จนกว่าบริษัทจะนาส่งงบการเงินไตรมาส 1/2568 ได้ ซึ่งหากผู้ถือหุ้นมีมติแต่งตั้งผู้สอบบัญชีสำหรับรอบปีบัญชี 2568 เรียบร้อยแล้ว บริษัทฯจะดำเนินการนำส่งงบการเงินไตรมาส 1/2568 ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยเร็วที่สุด
อีกทั้งก่อนหน้านี้ ยังมีการระบุถึงประเด็นเกี่ยวกับ "ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ไม่อนุมัติงบปี 2567 และต้องเลื่อนประชุมผู้ถือหุ้นเป็น 28 พ.ค. 2568 โดยยืนยันว่างบการเงินที่ไม่ได้รับความเห็นชอบจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่นั้น เป็นงบการเงินที่จัดทำขึ้นอย่างถูกต้องทุกประการ
บริษัทฯ ยืนยันว่า งบการเงินที่ไม่ได้รับความเห็นชอบจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่เป็นงบการเงินที่จัดทำขึ้นอย่างถูกต้อง โดยได้รับการตรวจสอบว่าจัดทำตามมาตรฐานบัญชีและเป็นงบการเงินที่ผู้สอบบัญชีตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว และแสดงความเห็นแบบไม่มีเงื่อนไข นอกจากนี้ ยังได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการตรวจสอบและคณะกรรมการบริษัทฯ ซึ่งได้ทำหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ระมัดระวัง และความซื่อสัตย์สุจริต ตามกฎหมาย วัตถุประสงค์ และข้อบังคับของบริษัทฯ แล้ว
ปัญหาที่เกิดขึ้นจึงไม่ใช่เรื่องความถูกต้องของงบการเงินหรือธรรมาภิบาลของบริษัทฯ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ตระหนักถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อภาพลักษณ์ของบริษัทฯ และความเชื่อมั่นของนักลงทุน จึงกำลังดำเนินการอย่างรอบคอบเพื่อหาทางออกที่เหมาะสม โดยยึดถือผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นโดยรวมเป็นสำคัญ
คณะกรรมการบริษัทฯ ได้รับฟังคำแนะนำของที่ปรึกษากฎหมาย และตัดสินใจเลื่อนการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 32/2568 ไปดำเนินการต่อในวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 เพื่อให้มีการหารือกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่เพื่อสร้างความเข้าใจในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
บริษัทดุสิตธานีแสดงความเชื่อมั่นว่า สถานการณ์ความเข้าใจที่ไม่ตรงกันนี้จะสิ้นสุดโดยเร็ว เนื่องจากสถานการณ์นี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นทุกราย โดยบริษัทฯ เชื่อว่าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องยังมีจุดมุ่งหมายเดียวกันที่จะเห็นบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) มีความเจริญก้าวหน้าและสามารถเติบโตอย่างยั่งยืน สมกับเจตนารมณ์ของผู้ก่อตั้ง
แม้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันจะส่งผลกระทบต่อบริษัทฯ อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แต่คณะกรรมการและผู้บริหารยืนยันว่ายังคงมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อให้ธุรกิจของบริษัทฯ ดำเนินต่อไปได้ตามปกติ
บริษัทฯ ยังเน้นย้ำว่าจะให้ความสำคัญกับการพิจารณาทุกประเด็นอย่างรอบด้านและถี่ถ้วน โดยจะดำเนินกระบวนการต่างๆ ภายใต้กรอบกฎหมายและสิทธิที่มีอย่างเหมาะสม เพื่อปกป้องรักษาผลประโยชน์ของบริษัทฯ อย่างเต็มที่ พร้อมทั้งป้องกันและบรรเทาความเสียหาย รวมถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อบริษัทฯ และผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนอย่างสุดความสามารถ