SET Index วันนี้พยายามสร้างฐาน Sideway กรอบ 1,150-1,170 จุด

04 เม.ย. 2568 | 02:33 น.
อัปเดตล่าสุด :04 เม.ย. 2568 | 02:33 น.

บล.ลิเบอเรเตอร์ มองตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่ง Sideway กรอบ 1,150 - 1,170 จุด ชี้มาตรการภาษีทรัมป์เพิ่มแรงกดดันเศรษฐกิจโลก ด้านน้ำมันย่อแรงรับ OPEC ขึ้นกำลังการผลิตสูงกว่าคาด

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด (Liberator) ประเมินภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ 4 เม.ย. 68 ว่า คาด SET แกว่งตัว Sideways ในกรอบ 1,150 - 1,170 จุด มาตรการภาษีของทรัมป์เพิ่มแรงกดดันต่อเศรษฐกิจทั่วโลก 

โดยวานนี้ (3 เม.ย.68) ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลดลงแรงเกือบ -4% ตอบรับความเสี่ยงต่อโอกาสเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่มากขึ้น หลังทรัมป์ประกาศใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ที่สูงกว่าที่ตลาดประเมินไว้

นอกจากนี้ ยังมีการรายงานตัวเลข PMI ภาคบริการ เดือนมีนาคม ซึ่งชะลอลงสู่ระดับ 50.8 จุด จาก 53.5 จุด ในเดือนก่อนหน้า และต่ำกว่าคาดที่ 52.9 จุด แนวโน้มสอดคล้องกับ PMI ภาคการผลิตที่อ่อนแอที่รายงานออกมาในช่วงต้นสัปดาห์ ตอกย้ำความเสี่ยงของเศรษฐกิจสหรัฐฯในช่วงถัดไป

ด้านดัชนี VIX Index ซึ่งเป็นดัชนีวัดความกลัวของตลาด พุ่งขึ้นสู่ระดับ 30.02 เป็นระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน ส่วนด้านราคาน้ำมันดิบเบรนท์ -6.4% ย่อแรงตอบรับความกังวลเศรษฐกิจทั่วโลก และมติ OPEC+ ที่ปรับเพิ่มกำลังการผลิต 4.11 แสนบาร์เรลต่อวัน ตั้งแต่เดือน พ.ค. นี้ ซึ่งสูงกว่าแผนเดิม

ในขณะที่เม็ดเงินหลบเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัย เช่น พันธบัตรรัฐบาล ส่งผลให้ Bond Yield สหรัฐฯ อายุ 10 ปี ลดลง -10bps สู่ระดับ 4.03% เช่นเดียวกับค่าเงิน ที่พบว่าค่าเงินเยน แข็งค่ากว่า 2.1% ทำจุดแข็งสุดในรอบ 6 เดือน 

ส่วน SET วานนี้แม้ว่าจะตอบรับปัจจัยลบจากประเด็นภาษีทรัมป์ แต่ก็ยังไม่หลุดระดับ 1,155 จุด ซึ่งถือเป็นระดับแนวรับที่สำคัญ โดยวันนี้คาดยังแกว่ง sideway แนะติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ เช่น การจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ คาดที่ 1.4 แสนตำแหน่ง และอัตราการว่างงานทรงตัวที่ 4.1%   

ปัจจัยที่ต้องจับตา

04 เม.ย.68 : เงินเฟ้อ CPI ไทย, จ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ, อัตราการว่างงานสหรัฐฯ

หุ้นเด่นแนะนำ

CPALL (ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 75.00 บาท)

  • แนวโน้มกำไรไตรมาส 1/2568 คาดยังคงปรับตัวขึ้นเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อน โดยได้แรงหนุนจาก SSSG คาดยังคงเป็นบวกได้ทั้งร้าน 7-Eleven (+2%), CPAXT (+1%) และ Makro (+1%) ผสาน มาตรการกระตุ้นการบริโภคของภาครัฐฯ เป็นปัจจัยหนุนเพิ่มเติม
  • ขณะที่ปัจจุบันราคาหุ้นเทรดเพียง PE 16 เท่า เข้าสู่ระดับที่น่าสนใจในการทยอยสะสม