นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ทางตลาดหลักทรัพย์ยังคงเดินหน้ามองหาหนทางแก้ไขและปรับโครงสร้างตลาดทุนพัฒนาให้มีการเติบโตและยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง โดยหนึ่งหัวใจสำคัญในครั้งนี้ คือ โครงการจั๊มพ์พลัส (Jump+) ที่มองว่าจะเข้ามาช่วยยกระดับบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ทั้งในเรื่องของ Good Governance และ Good Performance ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อตลาดทุน ช่วยเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมา
นอกจากนี้ ยังเป็นการช่วยบริษัทพัฒนาในเรื่องของ Value ให้กับนักลงทุนเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องทำควบคู่กันไป โดยมุ่งเพิ่มมูลค่ากำไรอย่างยั่งยืนด้วยการสนับสนุนด้าน ESG, AI, การให้คำปรึกษา และการสื่อสารกับผู้ลงทุน โดยเฉพาะต่างประเทศได้เข้าถึงข้อมูล พร้อมทั้งเตรียมดัชนีสะท้อนผลการดำเนินงานของบริษัทที่ประสบความสำเร็จ รวมส่งเสริมการควบรวมกิจการ (M&A) เพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว
ปัจจุบันทางตลาดหลักทรัพย์อยู่ในระหว่างการเร่งดำเนินการผลักดันให้โครงการ Jump+ เกิดขึ้นโดยเร็ว เบื้องต้นคาดว่าภายในระยะเวลา 2 สัปดาห์นี้ จะมีการนำเรื่องการขอสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับโครงการดังกล่าว รวมถึงเรื่องภาษีกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) เข้าหารือกับทางกระทรวงการคลัง เพื่อเป็นการกระตุ้นตลาดทุนไทย โดยคาดหวังว่าในช่วงเดือนพ.ค. 68 นี้จะเปิดดำเนินการโครงการ Jump+
ทั้งนี้ ในการหารือเพื่อเจรจาการขอสิทธิพิเศษทางภาษีกับกระทรวงการคลัง ประกอบด้วย 2 หัวข้อสำคัญ
โดยมองว่าแนวคิดดังกล่าวจะทำให้บริษัทจดทะเบียนมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ลดต้นทุนการดำเนินงาน กำลังทางการเงินในการลงทุนจะมากขึ้น สามารถแข่งขันในตลาดระดับโลกได้เพิ่มขึ้น เพราะมองว่าการที่ บจ. จะสามารถเติบโตได้อย่างแท้จริง จะต้องออกไปขยายตลาดต่างประเทศ อย่างไรก็ดี หัวใจหลักของผลประโยชน์ที่ได้จะรับมี 4 ด้าน ประกอบด้วย
ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะมีการให้สิทธิประโยชน์กับบริษัทที่เข้าร่วมโครงการ และบริษัทที่สามารถพัฒนาได้ตามแผนที่วางไว้ เช่น การสนับสนุนค่าที่ปรึกษา (FA) การพาไปนำเสนอข้อมูลบริษัท (Roadshow) ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้ ความเข้าใจในธุรกิจ และแสดงศักยภาพของบริษัทไทย ทำให้นักลงทุนเห็นภาพ สามารถนำข้อมูลที่ได้ไปพิจารณาการลงทุนในอนาคต
นายอัสสเดช กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเร่งผลักดันโครงการ Jump+ ให้ทันภายในช่วงไตรมาส 2/68 นี้ เบื่องต้นวางเป้าหมายว่าจะมีการประกาศรายละเอียดออกมาภายในเดือน พ.ค. เพื่อให้ทันช่วงของการจัดทำแผนธุรกิจที่ตามปกติแล้วมักจะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 3/68 อย่างไรก็ดี ในรอบแรกนี้วางเป้าหมายจะมี บจ. เข้าร่วมโครงการกว่า 50 บริษัท โดยจะมีการวางเกณฑ์และคุณสมบัติสำหรับ บจ. ที่จะเข้าร่วมโครงการ
สำหรับข้อกำหนดคุณสมบัติของ บจ. ทั้งในตลาด SET และ mai ที่จะเข้าร่วมโครงการ Jump+ ต้องไม่เข้าข่ายดังนี้