BPP ไตรมาส 4/67 ผลงานตามแผน ดีมานด์ไฟฟ้ายังมี

01 ต.ค. 2567 | 07:54 น.
อัปเดตล่าสุด :01 ต.ค. 2567 | 07:54 น.

"อิศรา นิโรภาส" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BPP มองภาพรวมธุรกิจครึ่งปีหลังเป็นไปตามแผน ดีมานด์ใช้ไฟฟ้าขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ พร้อมเดินเกมรุกธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในสหรัฐฯ เต็มสูบ ชี้เดือนพ.ย. เคาะแผนงานใหม่ 5 ปี

นายอิศรา นิโรภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP เปิดเผยว่า ประเมินภาพรวมธุรกิจในช่วงไตรมาส 4/67 นี้ คาดว่าการดำเนินงานจะยังคงเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ได้ การเดินเครื่องของโรงไฟฟ้าทั้งที่เป็นถ่านหิน ก๊าซ โซลาร์ฟาร์ม ยังคงทำได้ในระดับที่ค่อนข้างดี

ส่วนความต้องการใช้ไฟฟ้าในช่วงที่เหลือของปี 67 นี้ จะมีมากน้อยแค่ไหนนั้น อาจประเมินสภานการณ์ได้ค่อนข้างยาก เนื่องจากมีหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะในเรื่องของสภาพอากาศ หากว่าปลายปีนี้อุณหภูมิปรับตัวลดลงเร็ว ความต้องการใช้ไฟฟ้าก็จะสูงขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทยังเดินหน้าขยายการลงทุนในธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในประเทศยุทธศาสตร์อย่างต่อเนื่อง เมื่อไม่นานมานี้บริษัทได้ติดตั้งโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Ponder Solar ขนาด 2.5 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในพื้นที่แหล่งก๊าซธรรมชาติ บาร์เนตต์ในรัฐเท็กซัส สหรัฐฯ มีกำหนดเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือนสิงหาคม 2567 นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการขยายธุรกิจพลังงานหมุนเวียนของ BPP ในสหรัฐฯ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

พร้อมกันนี้ บริษัทจะขยายการลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ CCGT (Combined Cycle Gas Turbines) โดยเน้นตลาดในประเทศสหรัฐอเมริกา จากปัจจุบันที่ BPP มีโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติอยู่แล้ว 2 แห่ง คือโรงไฟฟ้า Temple I และโรงไฟฟ้า Temple II ในรัฐเท็กซัส

โดยโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ CCGT ถือเป็นสินทรัพย์ที่ส่งมอบพลังงานไฟฟ้าคุณภาพได้อย่างเหมาะสม เนื่องจากไม่เพียงสามารถสร้างกระแสเงินสดอย่างสม่ำเสมอให้แก่บริษัทฯ แต่ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ด้วยเทคโนโลยี CCGT ที่มีประสิทธิภาพสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (High Efficiency, Low Emissions: HELE) 

"BPP จะยังคงเดินหน้าขยายกำลังผลิตไฟฟ้าคุณภาพจากโรงไฟฟ้าที่มีก๊าซธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพสูงในการผลิตและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อสร้างกระแสเงินสดที่มั่นคง และพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ให้ตอบสนองต่อความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้นและรูปแบบการใช้พลังงานในอนาคต สะท้อนให้เห็นว่า เราคือพันธมิตรที่แข็งแกร่งในการเปลี่ยนผ่านพลังงาน ควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจโดยยึดหลัก ESG ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการ ที่มุ่งส่งมอบคุณค่าที่ยั่งยืนแก่ผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม"

ด้านธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานซึ่ง BPP ได้ลงทุนผ่านบ้านปู เน็กซ์ ในสัดส่วนร้อยละ 50 มีความคืบหน้าในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา โดยธุรกิจผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา ได้ลงนามสัญญาเพื่อผลิตและจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับพันธมิตรในประเทศต่างๆ อย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบันมีกำลังผลิตตามสัดส่วนการลงทุนรวม 100 เมกะวัตต์ ธุรกิจแบตเตอรี่และระบบกักเก็บพลังงาน เริ่มสายการผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนของโรงงาน SVOLT Thailand และส่งมอบแบตเตอรี่ลิเธียมนิกเกิลแมงกานีสโคบอลต์ออกไซด์ (NMC) ชุดแรกให้กับผู้ให้บริการรถบัสรายใหญ่ที่สุดในไทย 

สำหรับโครงการแบตเตอรี่ฟาร์มอิวาเตะ โตโนะ (Iwate Tono) ในญี่ปุ่น มีความคืบหน้าในการก่อสร้างถึง 97% ธุรกิจอีโมบิลิตี้ รถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า MuvMi เดินหน้าขยายเส้นทางการให้บริการอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันได้ให้บริการรับส่งแล้วมากกว่า 13 ล้านเที่ยว ธุรกิจการบริหารจัดการพลังงาน ได้ลงนามในสัญญาบริการจำนวน 25 สัญญาให้แก่ SB Design Square ในจังหวัดภูเก็ต และ SB Design Square CDC ในกรุงเทพฯ

ขณะเดียวกันหน่วยงาน Corporate Venture Capital ยังได้ลงทุนใน enspired ผู้นำในการพัฒนาแพลตฟอร์มให้บริการซื้อ-ขายพลังงานไฟฟ้าแบบเรียลไทม์ ซึ่งจะช่วยพัฒนาศักยภาพด้านเทคโนโลยี AI ที่จะยกระดับการดำเนินงานในธุรกิจแบตเตอรี่และการซื้อขายพลังงานของบ้านปู เน็กซ์

อย่างไรก็ตาม บริษัทอยู่ระหว่างการปรับเป้าหมายแผนงาน 5 ปีใหม่ เบื้องต้นคาดว่าไม่เกิดเดือนพ.ย.67 จะได้เห็นข้อสรุปที่ชัดเจน และจะมีการประกาศอย่างเป้นทางการ ตามลำดับ ซึ่งแน่นอนว่าแผนงานใหม่นี้ยังรวมไปถึงการขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งแบบที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว และที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง รวมถึงการขยายตลาดซื้อ-ขาย ไฟฟ้าแห่งใหม่เพิ่มเติม