โบรกมองไตรมาส 2 กลุ่มโรงแรมยังไม่ตื่นเต้น ลุ้นต่อครึ่งปีหลัง ชู ERW MINT เด่น

04 ส.ค. 2567 | 05:47 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ส.ค. 2567 | 05:47 น.

กูรูประเมินผลงานไตรมาส 2/67 หุ้นกลุ่มโรงแรม ยังไม่น่าตื่นเต้น ตามปัจจัยโลวซีซันของธุรกิจ กำไรสุทธิรวมของกลุ่มอยู่ที่ 3.78 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.3% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และโต 55.7% จากไตรมาสก่อน เปิดโผหุ้น Top pick ERW MINT

บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดมุมมองต่อหุ้นกลุ่มโรงแรมว่า ทางฝ่ายคาดว่าผลประกอบการในไตรมาส 2/2567 ของบริษัทในกลุ่มโรงแรมที่ศึกษาอยู่จะฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องจากเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อน ตามการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวไทย

ทั้งนี้ ตามปกติแล้วไตรมาส 2 ของทุกปีมักจะเป็นช่วงที่ผลประกอบการชะลอตัวตามฤดูกาล ซึ่งค่อนข้างแน่นอนว่า ผลการดำเนินงานโดยรวมของทุกบริษัทในกลุ่มจะแผ่วลงจากไตรมาสก่อน ยกเว้น Minor International ที่ทางฝ่ายคาดว่ากำไรสุทธิรวมของกลุ่มในไตรมาส 2/2567 จะอยู่ที่ 3.78 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.3% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และเติบโต 55.7% จากไตรมาสก่อน

นำโดย MINT เพราะเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มโรงแรม ซึ่งมีสัดส่วนรายได้จากยุโรป (อยู่ในช่วงฤดูท่องเที่ยว) มากกว่าเพื่อน ส่วนผลประกอบการของบริษัทอื่นๆ ในกลุ่ม ได้แก่ Central Plaza Hotel, The Erawan Group และ S Hotels and Resorts น่าจะแผ่วลงจากไตรมาสก่อน เพราะได้รับผลกระทบจากปัจจัยฤดูกาล คาดว่ากำไรของสามโรงแรมนี้จะยังคงเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันในปีก่อน ในไตรมาส 2/2567

ประเด็นสำคัญที่ตลาดเป็นห่วง ERW คือ อาจมีการปรับขึ้นค่าเช่า Grand Hyatt Erawan (ERW ถือหุ้น 74% และสหโรงแรมไทยและการท่องเที่ยว (สหไทย) ถือหุ้น 24% ) ซึ่งสัญญาเช่าอายุ 30 ปีที่ทำไว้กับสหไทยครบอายุสัญญาไปเมื่อเดือนกรกฎาคม 2563 โดย ERW พยายามเจรจาเพื่อต่ออายุสัญญาอีก 20 ปี และปัจจุบันทำสัญญาเช่าแบบปีต่อปี ทางฝ่ายคิดว่าประเด็นนี้จะเป็นปัจจัยค้างคาที่จะถ่วง ERW เอาไว้จนกว่าจะต่อสัญญาเสร็จเรียบร้อย

จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยเพิ่มขึ้น 35.0% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน เป็น 17.5 ล้านคนในงวด 6 เดือนแรกของปี 2567 คิดเป็น 88.6% ของระดับก่อนโควิดระบาด ทางฝ่ายคาดว่าโมเมนตัมจะยังคงเป็นบวกต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังปี 2567 หลังจากที่จำนวนนักท่องเที่ยวจากจีน, ยุโรป และเอเชียใต้ ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งจากช่วงเดียวกันในปีก่อน

โดยคาดว่าผลบวกจากนโยบายขับเคลื่อนการท่องเที่ยวของรัฐบาลน่าจะส่งช่วยหนุนให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติแข็งแกร่งในช่วงที่เหลือของปี 2567 นี้ ในปัจจุบันทางฝ่ายใช้สมมติฐานจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2567 ที่ 35 ล้านคน และปี 2568 ที่ 38 ล้านคน ทั้งนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในงวด 6 เดือนแรกของปี 2567 คิดเป็น 50% ของประมาณการเต็มปีของทางฝ่าย

หลังจากที่ผ่านช่วงที่การท่องเที่ยวแผ่วตามฤดูกาลในไตรมาส 2 ไปแล้ว ทางฝ่ายคาดว่ากำไรในช่วงครึ่งหลังปี 2567 น่าจะโตจากไตรมาสก่อน โดยเฉพาะในช่วงที่การท่องเที่ยวแข็งแกร่งตามฤดูกาลในไตรมาส 4 ทางฝ่ายยังคงให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มโรงแรมที่ Overweight โดยเลือก ERW และ MINT เป็นหุ้นเด่นของทางฝ่ายในกลุ่มนี้

อย่างไรก็ดี อาจต้องจับตาดูปัจจัยความเสี่ยง อาทิ การเกิดโรคระบาดที่รุนแรงครั้งใหม่, เศรษฐกิจโลกที่ถดถอย และปัญหาความวุ่นวายทางการเมือง เป็นต้น ที่อาจมีผลกดดันต่อกำลังซื้อ การใช้จ่ายของชาวต่างชาติ และการเดินทางท่องเที่ยว