ในงานสัมมนา หุ้นไทย 2024 with the Dragon Fire “Discover new opportunities” เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน ช่วงสุดท้ายโบรกเกอร์ 3 แห่งคือ บริษัท อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) และบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัดได้มาชี้ให้เห็นทิศทางการลงทุนในช่วงครึ่งปีหลังพร้อมแนะนำ 5 หุ้นอรหันต์ให้กับนักลงทุน
นายสุทธิชัย คุ้มวรชัย หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัท อินโนเวสท์ เอกซ์เปิดเผยว่า ภาพรวมช่วงครึ่งหลังปี 67 มองว่า เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวอย่างพร้อมเพียงกัน ทั้งในตลาดใหญ่อย่างสหรัฐฯ ยุโรป รวมถึงการผลิตและส่งออกในตลาดเอเชียเริ่มกลับตัวดีขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนให้เศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวตาม อีกทั้งคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในช่วงครึ่งปีนี้ หลังจากที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี)และแคนาดา (บีโอซี) ปรับลดดอกเบี้ยไปแล้วก่อนหน้านี้
ปัจจัยเหล่านี้จะเข้ามาช่วยสนับสนุนให้ตลาดเอเชีย โดยเฉพาะตลาดหุ้นเกิดใหม่ (Emerging Market) มีความน่าสนใจได้มากขึ้นรวมตลาดหุ้นไทย ขณะที่ปัจจัยในประเทศที่จะมีการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาล จะหนุนให้การลงทุนและการบริโภคดีขึ้น
สำหรับ 5 หุ้นเด่นที่แนะนำ ได้แก่
- ADVANC ผลประกอบการมั่นคง ไตรมาสแรกผลงานค่อนข้างดี Synergy ลดต้นทุนได้ค่อนข้างดี และจะดีต่อในช่วงที่เหลือของปีนี้ อีกทั้งยังได้รับ อานิสงส์จากการท่องเที่ยวที่ขยายตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีนี้
- KCE มองว่าได้ประโยชน์จากบาทอ่อนค่า รายได้สูงขึ้น มาร์จิ้นมากขึ้น แม้ต้นทุนทองแดงปรับตัวเพิ่มขึ้นอาจทำให้มีความกังวลอยู่บ้าง แต่เชื่อว่า บริษัทมีการบริหารจัดการที่ดี
- OSP ผลประกอบการมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้นตามส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มขึ้น และมาร์จิ้นที่มากขึ้น ในขณะที่มีต้นทุนลดลง,
- PTTGC ตั้งแต่ปีก่อนได้รับแรงกระทบมาค่อนข้างมาก จากซัพพลายที่เข้ามาเยอะ ปีนี้มองว่า ซัพพลายยังมีเข้ามาอยู่แต่เบาบางลงมาก ส่วนต่างจะเริ่มกว้างมากขึ้นขณะที่ภาพเศรษฐกิจโลก จีนฟื้น PTTCG ก็น่าจะฟื้นตัวด้วย
- TU ที่ได้รับอานิสงส์จากเงินบาทอ่อนค่าไทยส่งออกมากขึ้น มาร์จิ้นดีขึ้น สินค้าอาหารเริ่มเทิร์นอะราวด์มากขึ้น
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์(บล.) ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า มีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทยช่วง 12-18 เดือนข้างหน้า จากภาพเศรษฐกิจในประเทศจะกลับมามีการเติบโตและมีสมดุลในหลายมิติมากขึ้น ทั้งการเร่งเบิกจ่ายงบรองรับการขับเคลื่อนแผนการลงทุนของภาครัฐ การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ และดิจิทัลวอลเล็ต
สำหรับ 5 หุ้น เด่นที่แนะนำ ได้แก่
- CPALL เพราะได้ประโยชน์เต็มที่จากดิจิทัลวอลเล็ต มองว่า มีหุ้นไม่กี่ตัวที่ใช้ได้ในมุมของรัฐบาลเองก็เข้าใจว่า ต้องหาที่ใช้เงินก้อนนี้ให้กับประชาชนได้ ซึ่งปลอดภัยที่สุดคือร้านที่มีในพื้นที่ มีขนาดไม่ใหญ่ เพื่อให้คนสามารถใช้สิทธิ์ได้,
- KBANK แม้ว่าจะอยู่ในช่วงที่วัฏจักรห่างจากขาขึ้น การลดดอกเบี้ยเองมองว่าธนาคาร NIM ไม่ได้ลงเร็วขนาดนั้น เชื่อว่าบรรยากาศจากนี้คุณภาพลูกหนี้เริ่มดีขึ้น แบงก์ก็จะมีคุณภาพหนี้ที่ดีขึ้นด้วย
- OSP คนใช้สิทธิ์ดิจิทัล รับอานิสงส์เข้ามาบ้างทางอ้อม ซึ่งสัดส่วนธุรกิจกว่า 70% มียอดขายอยู่ในประเทศ แบ่งเป็น 30% ร้านค้าขนาดเล็กที่เหลืออีกประมาณ 60-70% มาจากโมเดิร์นเทรด,
- SCGP มองว่า การเติบโตของธุรกิจนั้นอิงเศรษฐกิจประเทศจีนไม่เกิน 10% และเวลาฟื้นตัวก็จะฟื้นจากการบริโภคที่ดีขึ้น เพราะสะท้อนต่อความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ
- TU แม้ว่าในปีก่อนมีการตั้งสำรองไปค่อนข้างเยอะ แต่เชื่อว่าในปีนี้เริ่มดีขึ้นเพราะไม่มีผลขาดทุนจากเรดล็อบสเตอร์อีกแล้ว
นายวิกิจ ถิรวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโส สายงายวิจัย บริษัทหลีกทรัพย์ บัวหลวง จำกัด กล่าวว่า บรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นไทยช่วงครึ่งหลังปี 67 จะปรับตัวดีขึ้นและเชื่อว่า จากการที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมีการบังคับใช้มาตรการต่างๆ เพื่อรักษาความเป็นธรรมในตลาดทุน จะสร้างความเชื่อมั่นในการลงทุนได้
ส่วน 5 หุ้นนั้น มองว่า เรื่องของเทคโนโลยีและการมีนวัตกรรมใหม่เข้ามามีบาบาทในการดำเนินธุรกิจนั้นเป็นเรื่องที่น่าสนใจ เช่น
- OSP ที่มีแผนการพัฒนาเครื่องดื่มรูปแบบใหม่ที่ดีต่อสุขภาพ ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องดื่มชูกำลัง ซึ่งอีกความน่าสนใจ คือ จากการที่ไปตั้งโรงงานผลิตในเมียนมา ทำให้ OSP สามารถเข้าถึงตลาดได้ง่ายกว่าเมื่อเทียบกับรายอื่นๆ และเป็นผู้ประกอบการที่มีส่วนแบ่งการตลาดที่สูง
- SFLEX อยากให้มองหุ้นตัวนี้ไว้บ้าง หากบอกว่า TU กำไรดีขึ้น และ SCGP มีแนวโน้มเป็นบวกจากการบริโภคที่เพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง เชื่อว่า SFLEX จะได้รับอานิสงส์ด้วยเช่นเดียวกัน เพราะมีธุรกิจที่เชื่อมโยงกันกับทั้ง TU และ SCGP โดยหากว่าการอุปโภค-บริโภคดี สบู่ ยาสระผม ขายดี SFLEX ก็ได้รับอานิสงส์ เพราะเป็นผู้ผลิตซองบรรจุภัณฑ์ (Flexible Packaging)
- SAV ก็น่าสนใจ ดำเนินธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับวิทยุการบินซึ่งแน่นอนว่าต้องมีความจำเป็นเพื่อสร้างความปลอดภัย เป็นหุ้นอีกตัวที่มีนวัตกรรม มีอะไรที่จะทำร่วมกับ AOT ในอนาคต มองว่า เมื่อได้สัมปทานแล้วก็ทำงานกันไปต่อได้ยาว
- CPF มองถึงรอบการ กลับมาเทิร์นอะราวด์ จากราคาหมูในจีนเริ่มฟื้น เวียดนามมีกำไรมากหมูไทยถึงจุดคุ้มทุน การปราบหมูเถื่อนได้ผล ธุรกิจในยุโรปที่ซึมตัวมานานเริ่มฟื้นตัวกลับมาดีขึ้น
- MINT รับอานิสงส์จากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว
หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 44 ฉบับที่ 4,002 วันที่ 20 - 22 มิถุนายน พ.ศ. 2567