"มิลล์คอน สตีล" แจงปมผิดนัดชำระหนี้ ยันแบงก์ไฟเขียวยืดหนี้ให้แล้ว 4 พันล้าน

17 พ.ค. 2567 | 02:42 น.
อัปเดตล่าสุด :17 พ.ค. 2567 | 02:49 น.

MILL แจงปมผิดนัดชำระหนี้แบงก์ เหตุลูกหนี้การค้าชำระค่าสินค้าล่าช้า เผยอยู่ระหว่างรอลงนามปรับโครงสร้างหนี้เป็นระยะยาวราว 4,000 ล้านบาท จากขนาดของรายการ 8,506.61 ล้านบาท ด้าน "ประวิทย์ หอรุ่งเรือง" ประกาศปรับแผนกลยุทธ์ โฟกัสตลาดเหล็กเกรดพิเศษ

17 พ.ค.67 นางสาวจุรีรัตน์ ลปนาวณิชย์ กรรมการ บริษัทมิลล์คอน สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ MILL แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ชี้แจงกรณีที่บริษัทฯ ผิดนัดชําระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยกับสถาบันการเงิน ซึ่งมีกําหนดชําระช่วงไตรมาส 1/2567 โดยเป็นหนี้สินหมุนเวียนระยะสั้นกับสถาบันการเงิน สาเหตุการผิดนัด เกิดจากการรับชําระค่าสินค้าจากลูกหนี้การค้าที่ล่าช้า ทําให้บริษัทไม่สามารถชําระหนี้ได้ตามกําหนด

นอกจากนี้ บริษัทเคยชี้แจงแล้วว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาขอผ่อนผันเงื่อนไขดังกล่าวกับสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง และรอข้อสรุปนั้น ทําให้บริษัทไม่ได้รับหนังสือแจ้งผิดนัดชําระหนี้จากสถาบันการเงิน ซึ่งปัจจุบันกลุ่มบริษัทและบริษัทได้รับการอนุมัติจากสถาบันการเงินแห่งนี้ ในการให้ปรับโครงสร้างหนี้ โดยปรับหนี้สินระยะสั้นเป็นหนี้สินระยะยาวประมาณ 4,000 ล้านบาท ส่วนของหนี้สินระยะสั้นที่เหลือสามารถใช้หมุนเวียนได้ตามปกติ ซึ่งบริษัทและสถาบันการเงินแห่งนี้อยู่ในระหว่างลงนามในเอกสารสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ ส่วนสถาบันการเงินแห่งอื่นๆนั้น บริษัทได้รับการต่ออายุวงเงินเรียบร้อยแล้ว โดยจะไม่มีผลกระทบต่อฐานะการเงินและผลการดําเนินงานของบริษัท และไม่มีผลกระทบต่อหุ้นกู้ที่บริษัทย่อยเป็นผู้ออกแต่อย่างใด

 

ทั้งนี้ ขนาดของรายการดังกล่าวเท่ากับ 8,506.61 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 41 เมื่อเทียบกับสินทรัพย์รวมของบริษัทตามงบการเงิน ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567

ด้านนายประวิทย์ หอรุ่งเรือง กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท มิลล์คอน สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ MILL เปิดเผยว่า บริษัทได้บรรลุข้อตกลงกับสถาบันการเงินแห่งหนึ่งในการปรับโครงสร้างหนี้ประมาณ 4,000 ล้านบาท ซึ่งจะครบกำหนดสิ้นเดือนมิถุนายน 2568 โดยยืดระยะเวลาหนี้เป็นระยะยาว เพื่อให้บริษัทสามารถนำเงินมาใช้หมุนเวียนกิจการและใช้ในการผลิต ซึ่งปัจจุบันบริษัทได้มีการปรับแผนการดำเนินงานและปรับกลยุทธ์ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และสามารถแข่งขันในตลาดได้ โดยเน้นตลาดเหล็กเกรดพิเศษ  ซึ่งต้องใช้เวลาในการดำเนินงานระยะหนึ่ง

สำหรับงบการเงินไตรมาส 1 ปี 2567 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2567 ซึ่งผู้สอบบัญชีไม่ได้แสดงความเห็นต่องบการเงินของบริษัทและบริษัทย่อยและงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทนั้น ไม่ได้มีสาเหตุจากการถูกจำกัดขอบเขตโดยผู้บริหาร แต่เกิดจากผลกระทบของความไม่แน่นอนที่มีสาระสำคัญตามสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรมเหล็กจากโรงงานจีนในประเทศไทย ส่งผลให้ราคาสินค้าในตลาดตํ่ากว่าปกติ รวมทั้งอุปสงค์การใช้เหล็กไม่เติบโต และการใช้จ่ายภาครัฐจาก พ.ร.บ. งบประมาณปี 2567 ที่ล่าช้า

 

โครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ 20 ลำดับแรก ณ วันที่ 29 มี.ค. 67 ประกอบด้วย 

  • นาย สิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล 2,031,757,206 หุ้น สัดส่วน 33.25%
  • บริษัท เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) 725,494,002 หุ้น สัดส่วน 11.87%
  • ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) 375,466,666 หุ้น สัดส่วน 6.15%
  • นาย สุระ คณิตทวีกุล 209,595,100 หุ้น สัดส่วน 3.43%
  • UOB KAY HIAN PRIVATE LIMITED 112,855,292 หุ้น สัดส่วน 1.85%
  • นาง จารุณี ชินวงศ์วรกุล 107,528,800 หุ้น สัดส่วน1.76%
  • บริษัท นิมิตร โฮลดิ้ง จำกัด 100,077,393 หุ้น สัดส่วน 1.64%
  • นาง จรรยา สว่างจิตร 100,000,000 หุ้น สัดส่วน 1.64%
  • นาง สมศรี เจริญศิริวัฒน์ 80,000,000 หุ้น สัดส่วน 1.31%
  • นาย ธงชัย ตรีพิพัฒน์กุล 80,000,000 หุ้น สัดส่วน 1.31%
  • น.ส.รัชนี ตรีพิพัฒน์กุล 80,000,000 หุ้น สัดส่วน 1.31%
  • น.ส.รัตนา ตรีพิพัฒน์กุล 70,000,000 หุ้น สัดส่วน 1.15%
  • นาย วีรยุทธ์ เจริญศิริวัฒน์ 70,000,000 หุ้น สัดส่วน 1.15%
  • นาย วีรพล เจริญศิริวัฒน์ 70,000,000 หุ้น สัดส่วน 1.15%
  • บริษัท บรุ๊คเคอร์ คอร์ปอเรท แอดไวเซอร์รี่ จำกัด 65,321,009 หุ้น สัดส่วน 1.07%
  • นาง สุชาดา ลีสวัสดิ์ตระกูล 64,451,641 หุ้น สัดส่วน1.05%
  • นาย ณรงค์ชัย สิมะโรจน์ 61,571,500 หุ้น สัดส่วน 1.01%
  • CITI (NOMINEES) LIMITED-PBG CLIENTS H.K.55,391,169 หุ้น สัดส่วน 0.91%
  • น.ส.ธนิกา ตั้งพูนผลวิวัฒน์ 54,799,581 หุ้น สัดส่วน    0.90%
  • นาย เฉลิมชัย มหากิจศิริ 53,393,164 หุ้น สัดส่วน 0.87%