โบรกคาด CPALL กำไรสุทธิไตรมาสแรกปีนี้โต23% รับทรัพย์ดิจิทัลวอลเล็ตเต็มสูบ

15 เม.ย. 2567 | 03:00 น.

กูรูคาดผลประกอบการไตรมาส 1/67 CPALL แข็งแกร่ง 5.06 พันล้าน โต 23% จากปีก่อน ยอดขายต่อสาขาเดิมยืนเหนือระดับ 3.5% พร้อมปูพรมรับทรัพย์ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท

ล่าสุด บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า ผลประกอบการควรแสดงให้เห็นธุรกิจค้าปลีกที่แข็งแกร่ง และผลการดำเนินงานของ CPAXT ที่มั่นคง CPALL ควรรายงานผลประกอบการธุรกิจค้าปลีกที่แข็งแกร่งอีกรอบสำหรับไตรมาส 1/2567 ประกอบกับตัวเลขที่แข็งแกร่งของ CPAXT ซึ่งควรจะช่วยหนุนแรงผลักดันของกำไรสำหรับ CPALL ในช่วงที่กำลังก้าวสู่ครึ่งหลังปี 2567 ที่น่าตื่นเต้นยิ่งขึ้น โดยจะได้รับการสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ทางฝ่ายคาดการณ์กำไรสุทธิในไตรมาส 1/2567 ไว้ที่ 5.06 พันล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน แต่ลดลง 8% จากไตรมาสก่อน

อัตราการเติบโตของยอดขายต่อสาขาเดิม (SSSg) จะกลับสู่ภาวะปกติ ทางฝ่ายคาดว่า SSSg ในรอบไตรมาสนี้จะอยู่ที่ 3.5% ใกล้เคียงกับระดับในช่วงครึ่งหลังปี 2566 โดย CPALL ควรรายงาน SSSg ที่สูงกว่าประมาณการ GDP ที่ค่อนข้างต่ำของประเทศไทยในช่วงครึ่งแรกปี 2567 เพียงเล็กน้อยตามที่ได้แนะนำไว้ อย่างไรก็ดี หลังจากได้รับการปรับปรุงข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท ทางฝ่ายเห็นโอกาสที่ SSSg ในปี 2567 จะดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจาก GDP น่าจะได้รับแรงหนุนให้เพิ่มขึ้น

อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ควรปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน โดยได้แรงหนุนจากส่วนประสมผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรที่ดีขึ้น แท้จริงแล้ว แนวโน้มเพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงของ CPALL อาทิ อาหารพร้อมรับประทาน เครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล น่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนผลประกอบการในไตรมาสนี้ สำหรับอัตราค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขาย ทั้งนี้ ทางฝ่ายคาดว่าจะมีการปรับตัวดีขึ้นบ้างจากค่าสาธารณูปโภคที่ลดลง โดยค่าสาธารณูปโภคที่ลดลงยังเป็นปัจจัยบวกต่อกำไรในช่วงครึ่งหลังปี 2567 ที่คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะยังคงอยู่ในระดับสูง

แม้ว่ารายละเอียดของโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท ยังอยู่ระหว่างการปรับปรุงขั้นสุดท้าย แต่ทางฝ่ายเชื่อว่าหากโครงการนี้ได้รับการอนุมัติ CPALL จะเห็นการพุ่งขึ้นของ SSSg และอัตรากำไรขั้นต้นในช่วงไตรมาส 4/2567 เพื่อสะท้อนผลกระทบดังกล่าว ทางฝ่ายจึงปรับประมาณการกำไรสุทธิในปี 2567 และไตรมาส 1/2567 ขึ้น 5-15% อย่างไรก็ตาม ทางฝ่างให้ CPALL เป็นหุ้นแนะนำหลักเนื่องจากมีคู่แข่งจำกัด ขณะเดียวกันก็ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ทั้งนี้ ทางฝ่ายคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ CPALL โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 77.00 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ระบุว่า หลังจากที่นายกรัฐมนตรีมีการพูดถึงแหล่งที่มา โครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต (Digital Wallet) 10,000 บาท  ภายใต้วงเงินงบประมาณ 500,000 ล้านบาท จากแหล่งที่มาของเงิน คือ 

  1. เงินงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จำนวน 152,700 ล้านบาท ซึ่งได้ขยายกรอบวงเงินงบประมาณในปี 2568 เรียบร้อยแล้ว
  2. การดำเนินโครงการผ่านหน่วยงานของรัฐ จำนวน 172,300 ล้านบาท โดยให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ดูแลกลุ่มประชาชนที่เป็นเกษตรกร จำนวน 17 ล้านคนเศษ ผ่านกลไกมาตรา 28 ของงบประมาณปี 2568
  3. การบริหารจัดการเงินงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ของรัฐบาล จำนวน 175,000 ล้านบาท ซึ่งงบประมาณปี 2567 เพิ่งเริ่มใช้ จึงมีเวลาที่รัฐบาลจะพิจารณาว่ารายการใดที่จะสามารถปรับเปลี่ยนได้ รวมถึงงบกลางที่อาจนำมาใช้เพิ่มเติมในส่วนนี้ถ้าวงเงินไม่เพียงพอได้ 

รวมถึงเงื่อนไขของเงินโครงการ Digital Wallet ครั้งล่าสุด ในแง่ประมาณการทางฝ่ายยังไม่ได้ใส่โครงการ Digital Wallet เข้าไป โดยยังมองโครงการเป็น short-term boost ให้กับดีมานด์โดยรวม (ส่งผลบวกต่อกลุ่มเฉพาะช่วงที่ดำเนินโครงการ) อย่างไรก็ดี ทางฝ่ายยังชอบ CPALL และ CPAXT มากสุดในกลุ่มค้าปลีก เพราะมองการเติบโตปี 2567 นี้ ค่อนข้างโดดเด่น ไม่ว่าจะมีหรือไม่มี Digital Wallet ก็ตาม