"ศักดิ์ดา พรรณไวย" ปักธง DMT ปี 67 โต 10% ใส่เกียร์ประมูลงานใหม่

06 มี.ค. 2567 | 05:00 น.
อัปเดตล่าสุด :06 มี.ค. 2567 | 05:06 น.

DMT ปริมาณจราจรเฉลี่ย ม.ค.-ก.พ. 67 ทะยาน 1.1-1.15 แสนคัน/วัน รับอานิสงส์เปิดประเทศ-มาตรการฟรีวีซ่า ตั้งเป้าทั้งปียอดจรจาแตะ 1.4 แสนคัน/วัน เร่งเครื่องประมูลงานโครงการทางหลวงพิเศษใหม่ M5 M82 M9 M6 และ M81 เติมพอร์ต แย้มกลางปีมีข่าวดีปิดดีลใหม่ได้อย่างน้อย 1 ดีล

ดร.ศักดิ์ดา พรรณไวย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ DMT เปิดเผยว่า แนวโน้มปริมาณการจราจรเฉลี่ยนับตั้งแต่ต้นปี 67 จนถึงปัจจุบันมีอัตราการขยายตัวที่ค่อนข้างดี ต้องยอมรับว่าหลังจากที่มีการเปิดประเทศท่องเที่ยว และมาตรการฟรีวีซ่าของภาครัฐให้นักท่องเที่ยวจีน ส่งผลให้ปริมารการจราจรบนทางยกระดับดอนเมืองมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นกว่า 10% จากไตรมาสก่อนหน้า

โดยในช่วงเดือนมกราคม 67 ปริมาณการจราจรเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1.1 แสนคัน/วัน ในขณะที่เดือนกุมภาพันธ์ ปริมาณการจราจรเฉลี่ยขยายตัวสูงขึ้นเป็นกว่า 1.15 แสนคัน/วัน แม้ว่าปริมาณการจราจรเฉลี่ยในตอนนี้อาจยังไม่สูงเมื่อเทียบเท่ากับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ระบาด ซึ่งมีปริมาณการจราจรเฉลี่ยสูงถึงกว่า 1.4 แสนคัน/วัน โดยทั้งปี 67 บริษัทตั้งเป้าหมายปริมาณการเจรจาเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ระดับราว 1.16 แสนคัน/วัน

"ภาพรวมการจราจรทางยกระดับดอนเมืองโทวเวย์ เชื่อต่อสนามบินดอนเมืองมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่สูงเท่ากับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ระบาด อีกทั้งด้วย เทอร์มินอล 1 ของสนามบินดอนเมืองยังไม่ได้เป็นเต็มระสิทธิภาพ ส่งผลให้ปริมาณการจราจรเฉลี่ยต่อวันในเส้นทางเชื่อมต่อสนามบินดังกล่าวในปัจจุบันอยู่ที่ราว 6 พันคัน/วัน จากที่เคยทำได้เฉลี่ย 1.5 หมื่นคัน/วัน หายไปกว่า 9 พันคัน แต่เชื่อว่าด้วยการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวดีขึ้นจะทำให้การเจรจาเฉลี่ยเส้นทางนี้ขยับตัวดีขึ้นได้ตามลำดับ"

นอกจากนี้ บริษัทยังมีความสนใจเข้าร่วมประมูลงานใหม่ๆ ทั้งส่วนหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง โดยงานโครงการภาครัฐที่บริษัทอยู่ระหว่างการติดตามและหาข้อมูลพร้มยื่นซองเสนอราคาเมื่อเปิดประมูล ได้แก่ โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง ส่วนต่อขยายทางยกระดับอุตราภิมุข (ดอนเมืองโทล์ลเวย์) ช่วงรังสิต-บางปะอิน (M5), โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายบางขุนเทียน – บ้านแพ้ว (M82) ที่คาดว่าจะได้เห็ยความชัดเจนในไตรมาส 2/67 นี้

และโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครฝั่งตะวันตก (M9) ทางยกระดับ ช่วงบางขุนเทียน-บางบัวทอง ระยะทางประมาณ 36 กิโลเมตรวงเงินลงทุน 56,035 ล้านบาท รวมถึงงานบริหารจัดการและซ่อมบำรุง Rest Area โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน-นครราชสีมา (M6) และโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางใหญ่-กาญจนบุรี (M81) ซึ่งคาดว่าภายในปี 67 จะได้เห็นความชัดเจน

รวมถึงบริษัทยังมีแผนการศึกษาทางเชื่อมอื่นๆ เช่น AOT Ramp และโครงการอื่นๆ ที่ไม่ใช่ทางด่วนหรือทางพิเศษ (Non-Toll Business) เพิ่มเติมอีกด้วย เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ และสร้างเสถียรภาพการเติบโตให้กับผลการดำเนินงานของบริษํทในอนาคต

ส่วนสำหรับงบลงทุนในปีนี้ มีจำนวน 167.33 ล้านบาท ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ได้แก่ 
1. งบลงทุนเพื่อการศึกษาวิจัยในการเทคโนโลยีทางยกระดับ และการศึกษางานโครงการต่างๆ ตามวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ รวมทั้งการศึกษาความเป็นไปได้ทางการเงินของโครงการที่ภาครัฐเปิดให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนด้วย
2. งบลงทุนเพื่อการลงทุนจัดซื้อทางด้านเทคโนโลยีทรัพย์สินใหม่ ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการดำเนินงานลดลง
3. งบลงทุนเพื่อการดำเนินงานบำรุงทางยกระดับตามแผนงาน ซึ่งสอดคล้องกับหลักวิศวกรรม 

พร้อมกันนี้ ในปี 67 บริษัทยังให้ความสนใจและมุ่งเน้นในการลงทุนธุรกิจอื่นๆ เพิ่มเติม โดยมีความเป็นไปได้ทั้งรูปแบบการควบรวมกิจการ (M&A) และการร่วมทุน (JV) ปัจจุบันมีที่อยู่ระหว่างการศึกษาและเจรจรในมือแล้วประมาณ 1-2 ดีล เบื้องต้นคาดว่าในช่วงกลางปีนี้จะได้เห็นข้อสรุปที่ชัดเจน อย่างน้อย 1 ดีล