SAV อวดกำไรปี 66 พุ่ง 36% แตะ 271.6 ล้าน คาดปีนี้โตแรงตามธุรกิจการบินAEC

21 ก.พ. 2567 | 12:05 น.

SAV รายได้ และกำไรเติบโตกว่า 35% จากการฟื้นตัวของธุรกิจท่องเที่ยวอาเซียน ผู้บริหารเดินหน้าเตรียมความพร้อมเพื่อขยายธุรกิจในธุรกิจ สปป.ลาว ชี้แนวโน้มการลงทุนด้านธุรกิจโอกาสเติบโตสูง ช่วยเสริมศักยภาพธุรกิจในอนาคตโตแกร่ง

นายธีระชัย พงศ์พนางาม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SAV หนึ่งในผู้นำในอุตสาหกรรมด้านการบิน ซึ่งเป็นผู้ได้รับสัมปทานการจัดการจราจรทางอากาศในประเทศกัมพูชาเพียงรายเดียว เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานประจำปี 2566 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,647.8 ล้านบาท เติบโตขึ้น 35.1%  หรือ 427.8 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

โดยบริษัทมีรายได้จากการบริการตามสัญญาสัมปทาน จำนวน 1,501.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 415.1 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโต 38.2% ซึ่งเพิ่มขึ้นตามจำนวนเที่ยวบินทั้งหมดที่เพิ่มขึ้นเป็น 92,685 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 35.5% หรือ 24,295 เที่ยวบินจากปี 2565

โดยแบ่งรายได้การบริการออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่

  • รายได้ค่าบริการสำหรับเที่ยวบินที่บินผ่านเขตน่านฟ้ากัมพูชา (Overflight) จำนวน 998.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.4%  ซึ่งเป็นสัดส่วนรายได้หลัก เนื่องจากกัมพูชาอยู่ในตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ที่ดี ทำให้เที่ยวบินที่จะไปเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมที่สำคัญในอาเซียน เช่น ไทย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ต้องบินผ่านน่านฟ้ากัมพูชา
  • รายได้ค่าบริการสำหรับเที่ยวบินที่บินขึ้น-ลงระหว่างประเทศ (Landing & Take-off: International) จำนวน 490.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 75.4% เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะหลังหมดสถานการณ์โควิด-19
  • รายได้ค่าบริการสำหรับเที่ยวบินที่บินขึ้น-ลงในประเทศ (Landing & Take-off: Domestic) จำนวน 11.6% เพิ่มขึ้น 15.9%

ทั้งนี้ ในปี 2566 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 271.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 72 ล้านบาท เติบโตขึ้น 36.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากรายได้จากการบริการเติบโตขึ้น และมีการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายอย่างเข้มงวด อนึ่ง บริษัทมีค่าใช้จ่ายการตัดจำหน่ายภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย จำนวน 88.5 ล้านบาท เพราะบริษัทมีการรับเงินปันผลจากบริษัทแคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิค เซอร์วิส จำกัด (CATS) จำนวน 25.5 ล้านเหรียญสหรัฐ

ซึ่งในไตรมาส 4/2566 นั้น มีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ จำนวน 1.15 ล้านเหรียญ หรือจำนวน 41 ล้านบาท ทั้งนี้ อัตราภาษีหัก ณ ที่จ่ายของประเทศกัมพูชาเท่ากับ 14.00% แต่เนื่องจากประเทศไทยและประเทศกัมพูชามีอนุสัญญาภาษีซ้อน ซึ่งกำหนดให้มีการหักภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย เท่ากับ 10.00% ของจำนวนเงินปันผล

บริษัทมีแผนที่จะจ่ายเงินปันผลจากบริษัท CATS มาที่ SAV ทุกๆ ไตรมาส เพื่อให้ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้คงที่ในทุกๆ ไตรมาส อีกทั้งบริษัทมีรายการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 9.0 ล้านบาท ที่เป็นค่าใช้จ่ายครั้งเดียว เนื่องจากบริษัทนำเงินที่ได้รับเงินจากการขายหุ้น IPO ซึ่งเป็นสกุลเงินบาทไปชำระคืนเงินกู้ยืมระยะยาวให้แก่สถาบันการเงินซึ่งเป็นสกุลเงินเหรียญสหรัฐรวม จำนวน 1,169.8 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจ่ายชำระคืนเงินกู้ยืมดังกล่าวทั้งจำนวนแล้ว เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2566 และยังจ่ายชำระคืนกู้ยืมระยะสั้นจากกิจการที่เกี่ยวข้องกัน จำนวน 258.7 ล้านบาท จึงทำให้ปัจจุบัน SAV เป็นบริษัทที่ไม่มีหนี้สินทางการเงินและไม่มีภาระดอกเบี้ย และมีศักยภาพทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยบริษัทมีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในปี 2566 จำนวน 480 ล้านบาท

สำหรับปี 2567 บริษัทคาดว่าอุตสาหกรรมการบินในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะเที่ยวบินมาประเทศไทยและเวียดนามจะยังคงมีการขยายตัวอยู่ ซึ่งจะทำให้ปริมาณเที่ยวบินผ่านกัมพูชาจะเพิ่มขึ้นประมาณ 22-25% ทำให้รายได้ของ SAV เติบโตในอัตราใกล้เคียงกัน ขณะเดียวกัน คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวมายังกัมพูชาจะเพิ่มมากขึ้น ทำให้รายได้จากเครื่องบินขึ้นลงจากต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน

นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการ บริษัท สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SAV กล่าวว่า บริษัทมีความพร้อมที่จะขยายธุรกิจในภูมิภาคอาเซียน ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการศึกษาธุรกิจสัมปทานวิทยุการบินในประเทศ สปป. ลาว เนื่องจากธุรกิจการบริหารจัดการการจราจรทางอากาศในประเทศ สปป. ลาว มีศักยภาพสูง มีจำนวนเที่ยวบินทั้งหมด มากกว่าจำนวนเที่ยวบินในกัมพูชาถึง 2-3 เท่าตัว และมีโอกาสที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปริมาณเที่ยวบินที่บินผ่านมายังประเทศไทยเพิ่มขึ้น โดยที่ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่า 23 ล้านคน และจำนวนเที่ยวบินจากประเทศจีนคาดว่าจะกลับมาอย่างมีนัยยะ ที่สำคัญบริษัทกำลังดำเนินการจัดตั้งบริษัท ลาว สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด 

นโยบายการจ่ายปันผล ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมตินำเสนอแก่ที่ประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อพิจารณางดการจ่ายเงินปันผลประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2566  โดยจะมีแผนเพื่อเตรียมความพร้อมในการนำเงินไปลงทุนเพิ่มเติมในธุรกิจใหม่ และนำไปต่อยอดในธุรกิจเดิมที่มีอยู่ แต่จะมีการนำเสนอแก่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาการจ่ายเงินปันผลในรอบถัดไปแทน

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน SAV ได้มีการถือสัดส่วน 100% ในบริษัท แคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิค เซอร์วิส จํากัด (CATS) ซึ่งเป็นบริษัทเดียวที่ประกอบธุรกิจดําเนินการจัดตั้งระบบและให้บริการควบคุมการจราจรในกัมพูชา โดยมีสัมปทานยาวนานกว่า 49 ปี มีความมั่นคงทางธุรกิจสูง และอยู่ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทางอากาศซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องสอดคล้องกับภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว