VGI งบQ3ปี 66/67 พลิกขาดทุน 3,339 ล้าน พิษ KEX-JMART ฉุดงบ

14 ก.พ. 2567 | 03:20 น.
อัปเดตล่าสุด :14 ก.พ. 2567 | 04:09 น.

VGI งบไตรมาส3 สิ้นสุด 31 ธ.ค.66 ขาดทุนสุทธิ 3,339 ล้านบาท เทียบช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 102 ล้านบาท เหตุบันทึกขาดทุนจากด้อยค่าเงินลงทุนจาก KEX - JMART ขณะที่มติบอร์ดบริษัทสั่งงดจ่ายปันผล

บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ  VGI แจ้งผลดำเนินงานไตรมาส3 ปี 2566/67 บริษัทฯ มีรายได้จากการให้บริการและการขายจำนวน 1,331 ล้านบาท ลดลง 3.1% YoY โดยมีสาเหตุหลักมาจากการลดลงของบริษัท แฟนสลิ้งค์คอมมูนิเคชั่น จำกัด (Fanslink) ซึ่งถูกบันทึกภายใต้ธุรกิจการจัดจำหน่าย อย่างไรก็ตามรายได้จากธุรกิจสื่อโฆษณาในระบบขนส่งมวลชน และธุรกิจบริการด้านดิจิทัล รวมไปถึงธุรกิจค้าปลีก ภายใต้บริษัท ซุปเปอร์ เทอร์เทิล จำกัด (มหาชน) TURTLE) แสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างแข็งแรง จากช่วงเดียวกันกับปีก่อนหน้า (ไตรมาส 3 ปี 2565/66 )

นอกจากนี้ ในไตรมาสนี้ บริษัทฯ มีการบันทึกขาดทุนจากการด้อยค่าเงินลงทุนในบริษัทร่วมจำนวน 2,947 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่มาจากบริษัทเคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (KEX) ,บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (Jaymart) และบริษัท แอดซ์ เจ้าพระยา จำกัด


 

บริษัทฯมีการบันทึกส่วนแบ่งขาดทุนจากกิจการร่วมค้า และบริษัทร่วมจำนวน 266 ล้านบาท เทียบกับส่วนแบ่งขาดทุน 94 ล้านบาทในไตรมาส 3 ปี 2565/66  ซึ่่งการรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนนี้มีสาเหตุหลักมาจากผลการดำเนินงานที่ขาดทุนของ KEX และส่วนแบ่งกำไรที่ลดลงจาก Jaymart

จากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ส่งผลให้  VGI  มีผลขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 3,339 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ( ไตรมาส 3 ปี2565/66) ที่มีกำไรสุทธิ 102 ล้านบาท หรือขาดทุน 3363.8%

มุมมองของผู้บริหารต่อการดำเนินงานในอนาคต ในไตรมาส 3 ปี 2566/67 VGI ได้เผชิญกับความท้าทายที่หลากหลาย อันเนื่องมาจากการลดลงของผลการดำเนินงานในบริษัทร่วมซึ่งบริษัทฯไม่สามารถควบคุมได้ รวมถึงการรับรู้รายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นประจำ โดยรายการดังกล่าวมีสาเหตุหลัก มาจากการบันทึกขาดทุนจากการด้อยค่าเงินลงทุนในบริษัทร่วม ซึ่งส่งผลกระทบในเชิงลบเป็นอย่างมากต่อผลการดำเนินงานในภาพรวมของบริษัทฯ ตลอดทั้งปี 2566/67 นอกจากนี้ผลขาดทุนจากการด้อยค่าเงินลงทุน (ทางบัญชี) ดังกล่าวยังส่งผลกระทบต่อกำไรสะสม 

งดจ่ายปันผล

ทำให้บริษัทฯ ทำการระงับการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเมื่อมองไปในอนาคต VGI ตระหนักถึงสถานการณ์ต่างที่เกิดขึ้น และได้ดำเนินการเชิงกลยุทธ์เพื่อทำให้ผลการดำเนินงานของเราดียิ่งขึ้น โดยบริษัทฯ เชื่อว่าช่วงเวลาที่ท้าทายที่สุดได้ผ่านพ้นไปแล้ว ด้วยเหตุนี้แนวโน้มกำไรจะมีการปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น ทั้งนี้สถานะทางเงินสดของบริษัทฯ ยังคงมีความแข็งแกร่ง ซึ่งจะช่วยรองรับการฟื้นตัวของบริษัทฯ ได้เป็นอย่างดีในอนาคตอันใกล้นี้

คงคำแนะนำ"ถือ"ราคาเป้าหมายที่ 1.99 บาท

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ ( 14 ก.พ.67 ) คงประมาณการผลขาดทุนจากธุรกิจหลักในปี FY24F ไว้ที่ 1.29 พันล้านบาท 

VGI มีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวหลายรายการ ได้แก่ค่าธรรมเนียมทนายความและผลขาดทุนจากบริษัทในเครือ ซึ่งเราไม่ทราบจำนวนของค่าใช้จ่ายเหล่านี้ ดังนั้นจึงใส่รายการนี้ไว้ในส่วนของการดำเนินงานจากธุรกิจหลักไปพลางก่อน จนกว่าจะทราบรายละเอียดมากกว่านี้ ดังนั้น ผลขาดทุน่จากธุรกิจหลักของ VGI จึงอยู่ที่
1.07 พันล้านบาท คิดเป็น 83% ของประมาณการเต็มปีของเรา โดยยังคงประมาณการผลขาดทุนในปี FY24F เอาไว้เท่าเดิมที่ 1.29 พันล้านบาท

บล.กรุงศรี ฯ ยังคงคำแนะนำถือ โดยประเมินราคาเป้าหมายที่ 1.99 บาท ทั้งนี้ เนื่องจาก VGI บันทึกค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวหลายรายการในไตรมาสนี้ ทำให้ราคาหุ้นตกลงมาแรง เราจึงมองบวกอยู่บ้างกับแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัท เพราะคิดว่าบริษัทไม่น่าจะต้องบันทึกรายการเหล่านี้อีกในไตรมาสถัดไป