ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 314.25 จุด แรงหนุนคาดผลประกอบการแข็งแกร่ง

16 ต.ค. 2566 | 23:44 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดในวันจันทร์ (16 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากมุมมองบวกเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์การสู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,984.54 จุด เพิ่มขึ้น 314.25 จุด หรือ +0.93%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,373.63 จุด เพิ่มขึ้น 45.85 จุด หรือ +1.06% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,567.98 จุด เพิ่มขึ้น 160.75 จุด หรือ +1.20%

ลิซา เอริกสัน นักวิเคราะห์จากบริษัท U.S. Bank Wealth Management กล่าวว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่าบริษัทจดทะเบียนจะรายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2566 ที่แข็งแกร่ง แม้ต้องเผชิญกับภาวะอัตราดอกเบี้ยสูงและความกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก

 

 

โอฟินน์ เดวิตต์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Moneta Group แสดงความเห็นว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นนิวยอร์กเผชิญกับความตื่นตระหนกจากเหตุการณ์สู้รบในตะวันออกกลาง แต่ขณะนี้ดูเหมือนว่านักลงทุนเริ่มซึมซับสถานการณ์ดังกล่าว และหันมาจับตาปัจจัยพื้นฐานของตลาด รวมทั้งผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน

ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์, แบงก์ ออฟ อเมริกา, จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน, เน็ตฟลิกซ์ และเทสลา จะรายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้ หลังจากบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่หลายแห่งรายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2566 ที่แข็งแกร่งเกินคาดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงเจพีมอร์แกน, ซิตี้กรุ๊ป และยูไนเต็ดเฮลธ์

นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นเป็นวงกว้าง ซึ่งช่วยให้หุ้นทั้ง 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก โดยหุ้นกลุ่มขนส่งและกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยได้รับแรงซื้ออย่างคึกคัก

หุ้นชาร์ลส์ ชวาบ (Charles Schwab) ซึ่งเป็นบริษัทโบรกเกอร์รายใหญ่ของสหรัฐ ทะยานขึ้น 4.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3 ที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีท

นักลงทุนยังคงติดตามสถานการณ์การสู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส โดยคาดว่ากองทัพอิสราเอลจะเปิดฉากโจมตีภาคพื้นดินในฉนวนกาซาในไม่ช้านี้ ขณะที่นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐกล่าวว่า สหรัฐกำลังจับตาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากความขัดแย้งดังกล่าว แต่ยังเร็วเกินไปที่จะระบุว่าเหตุการณ์นี้จะมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่ โดยจะขึ้นอยู่กับว่าความขัดแย้งจะลุกลามออกไปนอกอิสราเอลและฉนวนกาซาหรือไม่

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดซึ่งมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ที่สมาคมเศรษฐกิจแห่งนิวยอร์ก (Economic Club of New York) ในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด ก่อนที่คณะกรรมการเฟดจะจัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย.

น้ำมัน WTI ปิดลบ 1.03 ดอลล์  คาดสงครามไม่กระทบอุปทานผลิตระยะสั้น

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (16 ต.ค.) หลังจากสื่อรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐและเวเนซุเอลาเตรียมประกาศข้อตกลงในวันอังคาร (17 ต.ค.) เกี่ยวกับการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐที่มีต่ออุตสาหกรรมน้ำมันของเวเนซุเอล นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการที่นักลงทุนมองว่า ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสอาจจะไม่ส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในระยะสั้น

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 1.03 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 86.66 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.24 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 89.65 ดอลลาร์/บาร์เรล

ราคาทองปิดร่วง 7.20 ดอลล์  แห่ขายทำกำไรหลังราคาพุ่งแรง

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (16 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำทะยานขึ้นกว่า 3% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 7.20 ดอลลาร์ หรือ 0.37% ปิดที่ 1,934.30 ดอลลาร์/ออนซ์