"ยืดตั้งรัฐบาล 10 เดือน" เสี่ยงกดหุ้นไทยหลุดแตะ 1500 จุด ฟันด์โฟลว์ไหล

25 ก.ค. 2566 | 07:32 น.

โบรกฯ ประเมิน สุญญากาศ"การเมือง-งบประมาณ" หากสรุปให้จัดตั้งรัฐบาลต้องเลื่อนออกไปอีก 10 เดือน หุ้นไทยสัปดาห์นี้ เสี่ยงหลุดกลับไปทดสอบ 1,500 จุด ฟันด์โฟลว์ไหล แนะปรับน้ำหนักลงหุ้นเซฟโซน ใน 8 หุ้น Global Play เพิ่ม

ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด ประเมิน "ประเด็นการเมืองที่ยืดเยื้อ อาจมีสุญญากาศงบประมาณ ปี 2567 นานขึ้น"  หลังล่าสุดผู้ตรวจการแผ่นดินมีมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาขอให้วินิจฉัย กรณีที่ประชุมรัฐสภาลงมติข้อบังคับการประชุมรัฐสภา เมื่อวันที่ 19 ก.ค.66 ไม่ให้เสนอชื่อ“พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีซ้ำ เนื่องจากเห็นว่าเป็นการเสนอ “ญัตติซ้ำ” ซึ่งถือเป็นการผิดต่อข้อบังคับรัฐสภาในข้อ 41 ทำให้กระบวนการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีไม่เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 159 ประกอบ มาตรา 272 เป็นการกระทำขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่

พร้อมทั้งขอให้เลื่อนการประชุมรัฐสภาในวันที่ 27 ก.ค.66 ออกไปก่อน ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญจะมีการประชุมกันวันพุธ 26 ก.ค.66 จึงต้องติดตามว่าจะรับไว้พิจารณาหรือไม่ โดยผลการวินิจฉัยอาจเป็นได้ 2 แนวทางคือ

 

\"ยืดตั้งรัฐบาล 10 เดือน\" เสี่ยงกดหุ้นไทยหลุดแตะ 1500 จุด ฟันด์โฟลว์ไหล

  • การเสนอชื่อซ้ำ “ไม่เป็นญัตติ” สามารถนำชื่อแคนดิเดตนายกฯ จากก้าวไกล กลับมาเสนอต่อที่ประชุมรัฐสภาได้อีกครั้ง
  • การเสนอชื่อซ้ำ “เป็นญัตติ” ไม่สามารถนำชื่อ แคนดิเดตนายกฯ จากก้าวไกล กลับมาเสนอต่อที่ประชุมรัฐสภาได้ และพรรคเพื่อไทยจะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลต่อไป

อย่างไรก็ดีฝ่ายวิจัยฯ คาดการณ์ Scenario ที่สามารถเกิดขึ้นได้ในการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ มีดังนี้

  • กรณีที่ 1 พรรคเพื่อไทย จับมือพรรคร่วมรัฐบาลเดิมทั้ง 8 พรรค และรอจนสว.หมดอายุในเดือน พ.ค.67 ( เกิดสุญญากาศทางการเมืองราว 10 เดือน)
  • กรณีที่ 2 พรรคเพื่อไทย จับมือพรรคร่วมรัฐบาลใหม่ โดยไม่มีพรรคก้าวไกลและยังเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร์

ซึ่งจากแนวโน้มของสถานการณ์ปัจจุบัน มีความเป็นไปได้ทั้ง 2 กรณี แต่หากเป็น กรณีที่ 1 ก็จะทำให้เกิดสุญญากาศของรัฐบาล และ สุญญากาศของงบประมาณ โดยปกติแล้วงบประมาณรายจ่ายปี 2567 จะถูกเบิกจ่ายช่วง 1 ต.ค. 2566 – 30 ก.ย.2567 ซึ่งหากเกิดสุญญากาศจนถึง พ.ค.67 จะทำให้ช่วงเวลาที่จะใช้พิจารณางบประมาณสั้นลงและใช้ประโยชน์ได้ไม่เท่าที่ควร

 

ดังนั้นประเด็นดังกล่าว คาดทำให้สัปดาห์นี้ Fund Flow ต่างชาติมีโอกาสไหลออกช่วงสั้น และกดดัน SET Index กลับไปทดสอบแนวรับแรกที่ระดับ 1520 จุด และแนวรับสำคัญที่ 1500 จุด

หลบความผันผวนการเมือง ปรับพอร์ตลงหุ้น Global Play มากขึ้น

ฝ่ายวิจัย ฯ ยังระบุอีกว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยมีโอกาสผันผวนต่อจากความร้อนแรงทางการเมือง แต่ยังได้กระแสจากปัจจัยภายนอกเข้ามาสนับสนุน อาทิ ราคาน้ำมันขยับขึ้นราว 3% ในวานนี้ช่วยพยุงตลาดหุ้นไทย ซึ่งอิงราคา Commodity ถึง 1 ใน 3 ส่วน และยังมีประเด็นความ
คาดหวังการเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจจากจีน รวมถึง Fed ยุติวงจรการขึ้นดอกเบี้ย หนุนเม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มเติมได

จากปัจจัยดังกล่าว จึงแนะนำเอนเอียงน้ำหนักพอร์ตการลงทุนมาที่หุ้น Global Play หรือหุ้นหวังจีนจะเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วๆ นี้ มากขึ้น คาดมีโอกาส Outperform ตลาดได้ดีในช่วงนี้ อย่าง SCGP, TOP, BANPU, PTTEP, IVL, PTTGC , III, ERW 

 

\"ยืดตั้งรัฐบาล 10 เดือน\" เสี่ยงกดหุ้นไทยหลุดแตะ 1500 จุด ฟันด์โฟลว์ไหล

 

อนึ่ง การเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยปิดช่วงเช้าวันนี้ ( 25 ก.ค.66 ) อยู่ที่ 1,523.80 จุด ลดลง 0.01 จุด หรือ -0.00% มูลค่าซื้อขายราว 23,001 ล้านบาท โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,533.74 จุด และต่ำสุด 1,520.60 จุด

5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่

  • KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,311.75 ล้านบาท ปิดที่ 125.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
  • CPALL มูลค่าการซื้อขาย 853.43 ล้านบาท ปิดที่  62.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
  • TOP  มูลค่าการซื้อขาย 817.62 ล้านบาท ปิดที่  49.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
  • PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 725.81 ล้านบาท ปิดที่ 161.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
  • BDMS  มูลค่าการซื้อขาย 666.33 ล้านบาท ปิดที่  28.50 บาท ลดลง 0.25 บาท