โฟลว์ออก 4 หมื่นล้าน ! จับทิศหุ้นไทยสัปดาห์หน้า ปัจจัยตปท.-การเมือง

11 มี.ค. 2566 | 03:25 น.

บล.กสิกรไทย ประเมินตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า( 13-17 มี.ค.66 ) ดัชนี SET แกว่งกรอบ 1,575 - 1,630 จุด จับตาเงินทุนต่างชาติ และการเมืองในปท. หลังโฟลว์ไหลออก YTD แล้วกว่า 3.9 หมื่นล้าน

 

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)กสิกรไทย จำกัด ประเมินแนวโน้ม  ดัชนีหุ้นไทย ( SET Index ) สัปดาห์หน้า ( 13-17 มี.ค. 66 ) ดัชนีแกว่ง คาดแนวรับที่ 1,590 และ 1,575 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,620 และ 1,630 จุด ตามลำดับ

โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ และประเด็นการเมืองภายในประเทศ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ยอดค้าปลีก ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ. รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ 

ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ การประชุม ECB ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนก.พ. ของยูโรโซน และข้อมูลเศรษฐกิจเดือนก.พ. ของจีน อาทิ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ยอดค้าปลีก การลงทุนในสินทรัพย์ถาวร
 

ตลาดหุ้นไทยในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ( 6-10 มี.ค.66 ) ดัชนีปรับตัวลงหลุดกรอบ 1,600 จุด  ทั้งนี้หุ้นไทยดีดตัวขึ้นในช่วงแรก โดยมีแรงหนุนจากตัวเลขเงินเฟ้อเดือนก.พ.ของไทยที่ชะลอตัวลงและแตะระดับต่ำสุดในรอบ 13 เดือน ก่อนจะร่วงลงในเวลาต่อมา โดยถูกกดดันจากถ้อยแถลงของประธานเฟดต่อสภาคองเกรส ซึ่งสะท้อนถึงโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยแรงกว่าคาดเพื่อคุมเงินเฟ้อ 

โดยหุ้นกลุ่มที่ปรับตัวลงแรง ได้แก่ กลุ่มพลังงาน แบงก์และไฟแนนซ์ อย่างไรก็ดีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นช่วงสั้นๆระหว่างสัปดาห์ โดยมีแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีช่วยหนุน โดยเฉพาะหุ้นบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่แห่งหนึ่ง จากความคาดหวังเรื่องแนวโน้มธุรกิจ 

ดัชนี SET ปิดปลายสัปดาห์ (10 มี.ค 66) ที่ระดับ 1,599.65 จุด ลดลง 0.45% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 56,404.50 ล้านบาท ลดลง 11.61% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 0.50% มาปิดที่ระดับ 560.13 จุด

 

อนึ่งนักลงทุนต่างชาติ ยังคงมีสถานะขายสุทธิหุ้นไทยในรอบสัปดาห์นี้ โดยแยกตามกลุ่มนักลงทุนดังนี้

  • ต่างชาติขายสุทธิ 10,381.08 ล้านบาท ( มูลค่าสะสมตั้งแต่ต้นปี 66 สถานะขายสุทธิ 39,913.98 ล้านบาท )
  • สถาบันซื้อสุทธิ 3,650.05  ลานบาท ( มูลค่าสะสมตั้งแต่ต้นปี 66สถานะขายสุทธิ 1,870.43 ล้านบาท)
  • บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 184.78 ล้านบาท (มูลค่าสะสมตั้งแต่ต้นปี 66 สถานะซื้อสุทธิ 3,690.87 ล้านบาท )
  • รายย่อยซื้อสุทธิ 6,915.80 ล้านบาท (มูลค่าสะสมตั้งแต่ต้นปี 66 สถานะซื้อสุทธิ 38,093.55 ล้านบาท )