หุ้นไทยวันนี้ : ยังยืนแนวรับ 1645 จุดได้ ท่ามกลางปัจจัยลบ

20 ก.พ. 2566 | 02:12 น.

หุ้นไทยวันนี้ (20 ก.พ.66) เผชิญปัจจัยลบ จากทิศเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย หนุนดอลลาร์แข็งค่า กดดันฟันด์โฟลว์ แต่คาดยังยืนแนวรับ 1,645 จุดได้ แนะรอซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว หุ้นมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว

 

ตลาดหุ้นไทย : บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ประเมินแนวโน้มดัชนีหุ้นไทย ( SET Index ) วันนี้ (20 ก.พ. 66 ) รับปัจจัยกดดันจากความกังวลเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อ หนุนดอลลาร์แข็ง และเงินบาทอ่อนค่า กดดันต่อทิศทาง fund flow รวมถึง GDP ไทยใน Q4/65 ที่ต่ำกว่าคาด 

อย่างไรก็ตาม ด้านแนวโน้มราคา ยังดูยืนแนวรับบริเวณ 1645 จุดได้ ดังนั้นให้ใช้เป็นจุดติดตาม หากไม่ต่ำกว่า คาดว่าดัชนียังมีโอกาสฟื้นตัวได้ แนวต้านอยู่ที่ 1660-1666 จุด
 

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET ยังอยู่ในช่วงของการปรับฐาน หลัง Valuation ตึงตัว และอยู่ระหว่างรอปัจจัยหนุนใหม่ ขณะที่การประกาศผลประกอบการไตรมาส4/65 ของ real sector กำลังเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้าย ซึ่งส่วนใหญ่คาดยังมีแนวโน้มไม่สดใสนัก

กลยุทธ์การลงทุนจึงยังคงแนะนำ “Selective Buy” ในธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว โดยเน้นรอซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว ไม่ไล่ราคา ดังนี้

  • 1) หุ้นที่คาดผลประกอบการไตรมาส4/65 จะออกมายังเติบโตดี YoY ในช่วงโค้งสุดท้ายของการประกาศงบ เลือก BDMS ZEN BJC LH
  • 2) หุ้นที่คาดไม่ต้องระวังแรงขายจากต่างชาติ เนื่องจากปี 65 ต่างชาติขายสุทธิหรือซื้อสุทธิน้อย ขณะที่ปี 66 (YTD) ต่างชาติเริ่มพลิกซื้อสุทธิหรือซื้อต่อเนื่อง เลือก SCC AMATA ERW

ขณะที่ช่วงสั้น หุ้นที่แนะนำให้เพิ่มความระมัดระวังการลงทุน สำหรับหุ้นที่คาดเผชิญแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติ ได้แก่ AOT KBANK PTTEP BANPU EA BH TIDLOR รวมทั้งแนะนำให้ลดน้ำหนักลงทุนหุ้น/ขายทำกำไรออกไปก่อน หุ้นที่ราคาปรับขึ้นมาแรงกว่า SET และมองว่าสะท้อนพื้นฐานไปมากแล้วจนราคาหุ้นไม่มี หรือ เหลือ Upside จำกัด อีกทั้งนักวิเคราะห์พื้นฐานยังมองว่า ช่วงสั้นขาดปัจจัยหนุนและมีประเด็นเสี่ยงที่ต้องจับตา
 

หุ้นแนะนำประจำวัน

BJC : ไตรมาส4/65 คาดกำไรจะทำจุดสูงสุดของปี 2565 จากยอดขายและรายได้ค่าเช่าและอื่นๆ ที่ดีขึ้น ขณะที่ไตรมาส1/66 มองแนวโน้มกำไรยังเติบโต YoY จากยอดขายและรายได้ค่าเช่าที่ดีขึ้น

BDMS : มองราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้นได้อย่างแข็งแกร่ง แรงหนุนจากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง โดยกำไรมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นในไตรมาส4/65 -ปี 2566 และคาดจำนวนผู้ป่วยจากจีนจะเพิ่มขึ้นหลังจากเปิดประเทศ

ประเด็นสำคัญวันนี้

  • Goldman Sachs ออกรายงานคาดการณ์ว่า Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% อีก 3 ครั้งในปีนี้ สู่ระดับสูงสุดที่ 5.25-5.50%
  • รมว. ตปท. สหรัฐ เตือนจีนถึงผลกระทบร้ายแรงต่อความสัมพันธ์กับสหรัฐที่จะเกิดขึ้น หากจีนให้การสนับสนุนด้านอาวุธกับรัสเซีย
  • เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธ 3 ลูกตกสู่ทะเลญี่ปุ่นเช้าวันนี้ โดยขู่จะยิงเพิ่มอีกหากถูกสหรัฐคุกคาม
  • สภาพัฒน์รายงาน GDP 4Q65 +1.4%YoY ต่ำกว่าคาด +3.5%YoYส่งผลให้ GDP ปี 2565 +2.6% ต ่ากว่าคาด 3.2% นอกจากนี้ปรับลดประมาณการ GDP ปี 2566 เหลือโต 3.2% จากเดิมที่ 3.5% หลังประเมินการส่งออกติดลบ 1.6% แต่คาดท่องเที่ยวช่วยประคอง
  • AOT คาดนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยเกิน 1 ล้านคน ภายในเดือน ส.ค. นี้ และคาดว่าช่วง พ.ย. – ธ.ค. 66 ผู้โดยสารสุวรรณภูมิจะอยู่ที่ราว 60 ล้านคน/ปี เท่าช่วงก่อนโควิดระบาดปี 2562
  • กลุ่มธุรกิจ TCP ประกาศปรับราคาเครื่องดื่มกระทิงแดงคลาสสิกจาก 10 เป็น 12 บาท เริ่ม 1 มี.ค.66 จากต้นทุนการผลิตที่ปรับสูงขึ้น