'ทรีนีตี้' จัดพอร์ตลงทุน เคาะ 5 กลุ่มหุ้นเด่น เดือน ก.พ

02 ก.พ. 2566 | 02:59 น.

'ทรีนีตี้' มองหุ้นเดือนก.พ. ให้กรอบแนวรับ 1630 จุด แนวต้านล็อกขายทำกำไรไว้ 2 แนว 1700 และ 1730 จุด พร้อมแนะนำหุ้น 5 กลุ่มเด่น ชู DTAC ,SPALI, AMATA, M , GPSC

 

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยถึงทิศทางการลงทุนเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ว่า  คาดตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ 1630-1730 จุด โดยบรรยากาศการลงทุนโดยรวมทั่วโลกน่าจะเคลื่อนไหวไปกับทิศทางของเงินดอลลาร์สหรัฐต่อไป

"เฟดขึ้นดอกเบี้ยเมื่อวันที่ 1 ก.พ. ที่ระดับ 0.25% ตามตลาดคาด แต่ต้องติดตาม Statement ที่ออกมา รวมถึงการแถลงของนาย Jerome Powell จะมีทิศทางเอนเอียงไปในเชิง Dovish หรือ Hawkish มากน้อยขนาดไหน ส่วนในช่วงระหว่างเดือน ต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ทั้งตัวเลขการจ้างงานและรายงานเงินเฟ้อ ซึ่งจะส่งผลต่อมายังคาดการณ์ดอกเบี้ย Fed ในอนาคต " นายณัฐชาต  กล่าว

โดย ณ ปัจจุบันนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงมอง Terminal rate ของ Fed ที่ระดับ 4.75-5.00% หรือ Imply การขึ้นดอกเบี้ยในรอบนี้และรอบเดือนมีนาคม ครั้งละ 0.25% เท่านั้น
 

 

ในส่วนของเศรษฐกิจไทยล่าสุด ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทยเดือนธ.ค. พบการปรับตัวแข็งแกร่งของการบริโภคภาคเอกชน โดยหลักเกิดขึ้นในหมวดบริการเป็นสำคัญ สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง มองเป็นปัจจัยสนับสนุนต่อกลุ่มหุ้นที่เกี่ยวข้องอย่าง ร้านอาหาร โรงแรม และค้าปลีก เป็นต้น 

 

เปิดหุ้นเด่นอัพไซด์ 10% อัพ ไม่แพง

 

ทั้งนี้มีหุ้นหลายตัวในกลุ่มนี้ที่ราคาอยู่ในช่วงพักตัว แต่ยังคงมี Upside จากเป้าหมายของ Consensus ในระดับ 10% ขึ้นไป และมี Valuation อยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี อย่างเช่น AU, M, ZEN, SHR, VRANDA, COM7, CPALL, CRC, GLOBAL, HMPRO มองเป็นตัวเลือกในการลงทุนที่น่าสนใจ

 

นายณัฐชาต กล่าวว่า ในเชิงกลยุทธ์ กำหนดแนวรับเดือนนี้ที่ระดับ 1630 จุด ส่วนแนวต้านสำหรับการ Take profit ให้ไว้ 2 แนวได้แก่ 1700 และ 1730 จุด หากดัชนีไปถึงระดับ 1700 จุด ให้ใช้บริเวณดังกล่าวในการลดน้ำหนักการลงทุนครึ่งหนึ่ง และถือลุ้นในส่วนที่เหลือไปขายทำกำไรที่บริเวณ 1730 จุด
สำหรับ หุ้นที่น่าสนใจประจำเดือนนี้ ได้แก่
 

  • 1. DTAC โดยแนะนำซื้อบนธีมการควบรวมกับ TRUE และถือรอ Convert เป็นหุ้นใหม่ คาดการณ์ว่าภายหลังจากการควบรวมเสร็จสิ้น จะทำให้บริษัทใหม่มี Synergy เกิดขึ้น ทั้งฐานลูกค้าที่กว้างขึ้น การลดต้นทุนค่าใช้จ่ายต่างๆ และความร่วมมือในการใช้เครือข่ายร่วมกัน 
  • 2. หุ้นกลุ่ม Property ซึ่งราคายังคงปรับลง YTD สวนทางกับประมาณการกำไรที่ถูกปรับขึ้น ได้แก่ SPALI, WHA 
  • 3. หุ้นที่มักมี Track record ในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกๆปีอยู่ในเกณฑ์ดี และ Valuation อยู่ในระดับที่น่าสนใจ ได้แก่ AMATA, GLOBAL, INTUCH, JMT 
  • 4. หุ้นในกลุ่มบริการที่ได้ประโยชน์จาก Mobility ที่สูงขึ้นต่อเนื่อง และราคาอยู่ในช่วงพักตัว ได้แก่ M, VRANDA 
  • 5. หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าที่ราคาปรับลงมารับผลประกอบการไตรมาส 4/65 ที่อ่อนแอไปแล้ว และกำไรมีแนวโน้ม Bottom out ต่อจากนี้ ได้แก่ GPSC