KLINIQ ยันล๊อคผู้ถือหุ้นเดิม 100% ครบ ห้ามขายระยะ 6 เดือน

17 พ.ย. 2565 | 01:15 น.
อัปเดตล่าสุด :17 พ.ย. 2565 | 08:58 น.

ซีอีโอ KLINIQ ยันล็อคผู้ถือหุ้นเดิม 100% ครบถ้วน ไม่ให้นำหุ้นออกขายเป็นระยะเวลา 6 เดือน พร้อมดึง ‘วีระศักดิ์ สินทรัพย์ไพบูลย์ ’ อดีตผู้บริหารยูนิลีเวอร์ นั่งบอร์ด

 

การเคลื่อนไหวราคาหุ้น บริษัท เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ KLINIQ  ปิดราคาซื้อขายเมื่อวันที่ 16 พ.ย. อยู่ที่ระดับ 34.75 บาท บวก 1.50 บาท หรือปรับขึ้น 4.51% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 428.77 ล้านบาท  ทั้งนี้หุ้น KLINIQ เข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ ( mai)  เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 65 ราคาปิดเทรดวันแรกที่ 41.50 บาท บวก 17.00 บาทหรือปรับขึ้น 69.39% จากราคาไอพีโอที่ 24.50 บาท

 

นายแพทย์อภิรุจ ทองวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม จำกัด (มหาชน) (KLINIQ) กล่าวยืนยันว่า กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม KLINIQ จำนวน 160 ล้านหุ้น ซึ่งประกอบด้วย กลุ่มของนายแพทย์อภิรุจ ทองวัฒน์ กลุ่มบริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) นายรัฐพล กิตติชัยตระกูล และ กลุ่มดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา นายคเชนทร์ เบญจกุล นายพีรนาถ โชควัฒนา และ ภิญญ์พิสิฐ ตั้งธํารงโรจน์  ยังถูก Lock-up ห้ามนำหุ้นออกขายในระยะเวลา 6 เดือน นับจากวันที่มีการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน โดยหุ้นดังกล่าวได้รับการ Lock-up ที่ ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

 

ล่าสุด คณะกรรมการ KLINIQ  ได้แต่งตั้ง นายวีระศักดิ์ สินทรัพย์ไพบูลย์ เป็น กรรมการบริษัท ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนที่ทางบริษัทฯ ได้วางแผนไว้เพื่อรองรับการขยายสาขาภายหลัง IPO โดย นายวีระศักดิ์ สินทรัพย์ไพบูลย์ ถือเป็นนักบริหารมืออาชีพที่จะสนับสนุนให้เกิด Solutions ใหม่ๆให้แก่ธุรกิจได้อย่างยั่งยืน
 

นายแพทย์อภิรุจ กล่าวต่อ ว่ากรณีที่นายเฉลิมชัย ทองวัฒน์ ลาออกจากตำแหน่งกรรมการ มีผลตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย.65 และนายประทีป วาณิชย์ก่อกุล ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นกรรมการบริษัท กรรมการบริหาร และกรรมการบริหารความเสี่ยง มีผลตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย.65 นั้นไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานแต่อย่างใด

 

ทั้งนี้ นายเฉลิมชัย ทองวัฒน์ เป็นบิดาของ นายแพทย์อภิรุจ ทองวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทฯ เมื่อลาออกไปแล้ว ได้แต่งตั้ง นายรัฐพล กิตติชัยตระกูล ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ ให้เป็นกรรมการแทน ซึ่งเป็นการปรับโครงสร้างกรรมการตามปรกติ เพื่อให้เหมาะสมกับกลยุทธ์ตามที่วางแผนไว้แล้ว และเพิ่มความโปร่งใสในการดำเนินงานอีกด้วย 

 

ด้านนายประทีป วาณิชย์ก่อกุล ได้แจ้งลาออกเนื่องจากปัญหาเรื่องสุขภาพ จากทำงานหนักร่วมกันในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาจนกระทั่งสามารถนำบริษัทฯเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ได้ตามแผนที่วางไว้
 

 

สำหรับแผนงานในปีนี้ KLINIQ ได้ขยายสาขาแล้ว 11 สาขา รวมทั้งมีแผนเปิดสาขาใหม่ใน CBD เพิ่มเติมอีก 2 สาขาภายในเดือนธันวาคม 2565 ซึ่งถือเป็น milestone ใหม่ของบริษัทฯ นอกจากนี้บริษัทฯ ได้ศึกษาแผนการขยายสาขาในปีหน้า และปรับกลยุทธ์เพิ่มเติม เพื่อตอกย้ำตำแหน่งผู้นำด้านการแพทย์ความงาม เชื่อว่าจะมีศักยภาพที่จะขยาย 6-10 สาขา ได้อย่างแน่นอน รวมทั้งการลงทุนในเครื่องมือทางการแพทย์มาตรฐาน US FDA เพิ่มเติมจะช่วยผลักดันรายได้และกำไรสร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง 

 

เห็นได้จากในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทฯมีรายได้ 1,147.13 ล้านบาท สูงกว่าตัวเลขทั้งปีของปี 2564 ที่ 949.93 ล้านบาท และสูงสุดนับตั้งแต่จัดตั้งบริษัทฯ นอกจากนี้ยังมีรายได้รับล่วงหน้าสูงถึง 379.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมา 31.39% จากไตรมาสที่แล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความไว้วางใจของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ เชื่อว่าทิศทางธุรกิจในอนาคตจะสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน จากทั้งธุรกิจ Skin และ Surgery