ตามรอยเฮีย ม. ลากหุ้น MORE ก่อนทิ้งดิ่ง ฟลอร์ 2 วัน

11 พ.ย. 2565 | 10:08 น.

ตามรอยเฮีย ม. ลากหุ้น MORE จาก 0.30 บาทขึ้นไปเกือบ 3.00 บาท ก่อนทิ้งดิ่ง ฟลอร์ 2 วัน รายย่อยตื่นหนีตาย ส่งผลยอดขายค้างกว่า 131.07 ล้านบาท กระแสหนาหู นักลงทุนรายใหญ่เทขายหุ้น 2 วัน 2 พันล้านให้นอมินี แต่นอมินีเปิดตูด จะไม่ยอมจ่ายค่าหุ้น ร้อนถึงโบรกเกอร์ต้องเข้าหารือตลท.

การซื้อขายหุ้นบริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน)หรือ MORE ที่สภาพการซื้อขายผิดปกติไป 2 วัน จนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ต้องออกมาเตือนให้ผู้ลงทุนพิจารณาปัจจัยพื้นฐานและสารสนเทศที่แจ้งผ่านระบบตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน พร้อมกับขอให้บริษัทสมาชิกกำกับดูแลการซื้อขายและการดำเนินการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับหลักทรัพย์ MORE อย่างใกล้ชิดและเคร่งครัด เพื่อป้องกันการส่งคำสั่งซื้อขายที่อาจไม่เหมาะสม หรือไม่เป็นไปตามพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

ตามรอยเฮีย ม. ลากหุ้น MORE ก่อนทิ้งดิ่ง ฟลอร์ 2 วัน

ทั้งนี้หุ้น MORE หรือเดิมคือบริษัท ดีเอ็นเอ 2002 จำกัด (มหาชน) หรือ DNA ที่เคยอื้อฉาวจากการเข้าไปพัวพันคดี “บิทคอยน์” ของนักธุรกิจชาวฟินแลนด์เมื่อปี 2561 มีสัญญาณการเปลี่ยนไปตั้งแต่สัปดาห์ก่อน หลังตลท.เปิดเผยตัวเลขการซื้อ-ขายหุ้นไทยสุทธิสะสม รอบสัปดาห์ที่ผ่านมา( 31ต.ค.- 4 พ.ย. 65)ในบัญชีเอ็นวีดีอาร์ (NVDR)พบว่า หุ้น MORE พลิกขึ้นแชมป์ที่ต่างชาติซื้อสูงสุดที่ 1,204 ล้านบาท

 

จากนั้นเมื่อวันที่ 10 ต.ค.65 หุ้น MORE เปิดตลาดที่ราคา 2.90 บาท ก่อนราคาจะปรับตัวลดลงต่อเนื่องจนราคาต่ำสุด(Floor) ที่ราคา 1.95 บาท โดยมูลค่าซื้อขายสูงถึง 7,142 ล้านบาทเป็นอันดับ 1 ของมูลค่าการซื้อขายรวมทั้งตลาด (SET และ mai)

 

ต่อมาเช้าวันนี้ (11 พ.ย.2565) ราคาหุ้น MORE ยังลดลงต่อเนื่อง เปิดตลาดที่ราคา Floor 1.37 บาท และปิดตลาดภาคเช้าที่ราคาดังกล่าว  ด้วยมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 128.16 ล้านบาท โดยที่ ณ เวลา 9.45 น.พบว่า มีคำสั่งขายค้างอยู่หนาแน่นกว่า 131.07 ล้านบาท ขณะที่คำสั่งซื้ออยู่ที่ระดับ 2.71 ล้านบาท

 

 


อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวว่า  ราคาหุ้น MORE ถูกลากจากราคาหุ้นละ 0.30 บาทขึ้นไปเกือบ 3.00 บาท แต่ล่าสุดเกิดการเทขาย 2 วันติด มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท ว่ากันว่า มาจากนักลงทุนรายใหญ่ ชื่อเฮีย ม. ขายหุ้นออกไป

 

โดยจะให้บริษัทตัวแทน หรือ นอมินีมารับซื้อหุ้นแทน แต่เมื่อวันที่ 10 พ.ย. นอมินีส่งสัญญาณว่า จะไม่ชำระค่าหุ้น ซึ่งจะครบดีลตามเงื่อนไข(T+2) ในวันจันทร์ที่ 14 พ.ย. ทำให้เกิดการตื่นตระหนกในหมู่นักลงทุนรายย่อยต้องเทขายหุ้นตาม

 

ดังนั้น หากนอมินีไม่ชำระค่าหุ้นดังกล่าว ลูกค้าของโบรกเกอหลายรายที่เข้าไปซื้อหุ้น มีโอกาสที่จะไม่จ่ายค่าซื้อหุ้นเช่นเดียวกัน เนื่องจากราคาหุ้น MORE ลดลงติดฟลอร์ติดต่อเป็นวันที่สอง จึงขายทิ้งไม่ได้ โบรกเกอร์จึงได้นำเรื่องเข้าไปหารือกับตลท. เพื่อหามาตรการป้องกันผลกระทบลุกลาม แต่ยังยังไม่ทราบผลจะออกมาอย่างไร หากไม่ช่วยเหลือ จะมีผลกระทบมาก เพราะหุ้น MORE เทรดวันเดียวมากกว่า 7,000 ล้านบาท 

 

 

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ MORE ณ วันที่ 30 ก.ย. 2565 

  1. นายอมฤทธิ์ กล่อมจิตเจริญ จำนวน 1,547,200,165 หุ้น 23.69 %
  2. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด จำนวน 886,525,028 หุ้น 13.57 %
  3. นาย ศิริศักดิ์ ปิยทัสสีกุล จำนวน 742,862,800  หุ้น  11.37%
  4. นายอภิมุข บำรุงวงศ์ จำนวน 586,778,233 หุ้น     8.98%
  5. นายวสันต์ จาวลา จำนวน 431,989,100  หุ้น 6.61%
  6. นายสามารถ ฉั่วศิริพัฒนา จำนวน 279,000,065  หุ้น     4.27%
  7. UOB KAY HIAN PRIVATE LIMITED จำนวน 193,747,000 หุ้น 2.97%
  8. น.ส.อรเก้า ไกยสิทธิ์ จำนวน 136,114,700  หุ้น  2.08%
  9. นายเอกภัทร พรประภา จำนวน 122,118,400 หุ้น     1.87%
  10. น.ส.จิระวรรณ ไชยพงศ์ผาติ จำนวน 85,134,000  หุ้น 1.30%