GBS แนะลงทุน 5 หุ้นได้อานิสงส์วิกฤติพลังงานยุโรป

30 ส.ค. 2565 | 04:37 น.

บล. โกลเบล็ก (GBS) ประเมินหุ้นไทยสัปดาห์นี้ผันผวน หลังพาวเวล ประกาศคุมเข้มเศรษฐกิจสหรัฐ พร้อมแสดงท่าทีว่าดอกเบี้ยนโยบายในขณะนี้ยังไม่สูงพอที่จะสกัดเงินเฟ้อ ให้กรอบดัชนี 1,600-1,650 จุด แนะธลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากวิกฤตพลังงานในยุโรป PRM-VL-BANPU-LANNA-PTTEP

นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ ว่า ยังมีโอกาสปรับตัวลงตามทิศทางตลาดโลก โดยตลาดหุ้นทั่วโลกถูกกดดันหลังนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐจำเป็นจะต้องมีการคุมเข้มนโยบายไประยะหนึ่งก่อนที่จะสามารถควบคุมเงินเฟ้อได้ ซึ่งจะส่งผลให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอลง

 

ขณะที่นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐสาขาเซนต์หลุยส์คาดการณ์ว่า เงินเฟ้อสหรัฐมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงยาวนานกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์และระดับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขณะนี้ยังไม่สูงพอที่จะควบคุมแรงกดดันเงินเฟ้อ  จึงคาดการณ์ดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,600-1,650 จุด 

 

ขณะที่สหรัฐ ยังแสดงท่าทีไม่เป็นมิตรกับจีนอย่างต่อเนื่อง โดยการสั่งเรือรบ 2 ลำแล่นผ่านช่องแคบระหว่างจีนและไต้หวัน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้เดินทางเยือนไต้หวันเมื่อช่วงต้นเดือน และอาจจะก่อให้เกิดความขุ่นเคืองกับจีนซึ่งอ้างว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของประเทศ  บ่งชี้ถึงความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างสหรัฐ จีน และไต้หวันที่ยังคุกรุ่น


ส่วนตัวเลขการส่งออกของไทยในเดือน ก.ค.65  เพิ่มขึ้น 4.3% ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ระดับ 10.7 – 11% ส่งผลให้ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2565 การส่งออกเพิ่มขึ้น 11.5% จากการปรับตัวสูงขึ้นของราคาสินค้าหมวดพลังงาน
ดังนั้นยังคงต้องจับตาปัจจัยในประเทศ  อาทิ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมและธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย และปัจจัยต่างประเทศ

 

อาทิ อัตราว่างงานของญี่ปุ่นเดือนก.ค., อียู เปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.สหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนมิ.ย. และตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนก.ค.31 ส.ค. ญี่ปุ่นเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนก.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ส.ค.จีนเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนส.ค.

 

สหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนส.ค.จาก ADP และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์  1 ก.ย. จีนเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนส.ค. อียูเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนส.ค. อัตราว่างงานเดือนก.ค. สหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนส.ค. ดัชนีภาคการผลิตเดือนส.ค. และการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนก.ค. 2 ก.ย. อียูเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ค. สหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค. และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.ค.

 

ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนที่ได้ประโยชน์จากวิกฤตพลังงานในยุโรป จากการที่ดัชนีค่าระวางเรือเก็บน้ำมันเพิ่มขึ้น ได้แก่  PRM, VL และราคาพลังงานและถ่านหินที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ BANPU, LANNA และ PTTEP
ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ

นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ในสัปดาห์นี้ยังคงต้องจับตาประกาศตัวเลขภาคแรงงานของสหรัฐ แม้ GDP ไตรมาส 2 ของสหรัฐจะหดตัวลง -0.6% แต่ตัวเลขภาคแรงงานของสหรัฐยังออกมาแข็งแกร่ง ทำให้เฟดประเมินว่าเศรษฐกิจสหรัฐสามารถรองรับปรับขึ้นดอกเบี้ยได้ สอดคล้องกับแนวโน้มจาก Fed watch ตลาดให้แนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยที่ 0.75% โดยสัดส่วนน้ำหนักที่ 74.5% ขณะที่ปรับดอกเบี้ย 0.5% ให้น้ำหนัก 25.5% ทำให้ตลาดอาจแกว่งตัวออกข้างได้

 

ดังนั้นฝ่ายวิจัยประเมินว่าราคาทองคำอาจแกว่งตัวในกรอบ 1,700-1,765$/Oz เนื่องจากยังมีปัจจัยหนุนด้านวิกฤตพลังงานฝั่งยุโรป สอดคล้องกับคาดการณ์เงินเฟ้อที่อาจทรงตัวระดับสูงต่อไป คำแนะนำซื้อขายตามกรอบที่ให้ไว้