ไอแบงก์ออก 3 มาตรการ ‘ช่วยเหลือ-เยียวยา-ฟื้นฟู’ อุ้มผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้

15 ธ.ค. 2568 | 08:02 น.
อัปเดตล่าสุด :15 ธ.ค. 2568 | 08:06 น.

ไอแบงก์ออก 3 มาตรการ ผ่านการพักหนี้ สูงสุด 12 เดือน จัดสินเชื่อรายย่อย 1 แสนบาท ดอกเบี้ย 0% ฝั่งธุรกิจให้สินเชื่อ 5 ล้านบาท อุ้มผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้

ดร.ทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการและผู้จัดการ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ไอแบงก์พร้อมดำเนินมาตรการดังกล่าวอย่างเต็มศักยภาพ เพื่อให้ความช่วยเหลือเข้าถึงลูกค้าธนาคารได้อย่างรวดเร็ว ทั่วถึง และสอดคล้องกับหลักการของสถาบันการเงินอิสลามที่ยึดมั่นในการยืนเคียงข้างลูกหนี้ในยามเกิดวิกฤต มาตรการดังกล่าวประกอบด้วย 3 มาตรการสำคัญ ครอบคลุมการช่วยเหลือลูกหนี้ในทุกระยะ ได้แก่

  • มาตรการที่ 1 การพักชำระหนี้ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของลูกหนี้ในช่วงวิกฤต โดยธนาคารให้พักชำระเงินต้นและยกเว้นกำไรเป็นระยะเวลา 12 เดือน เพื่อให้ลูกหนี้มีเวลาในการฟื้นฟูชีวิตและกิจการ
  • มาตรการที่ 2 สินเชื่อเยียวยา เพื่อสนับสนุนเงินทุนฉุกเฉินให้แก่ลูกหนี้เดิมที่ได้รับผลกระทบ สามารถนำไปใช้ในการดำรงชีพ ซ่อมแซมที่อยู่อาศัย หรือเสริมสภาพคล่องในการประกอบอาชีพ
  • มาตรการที่ 3 สินเชื่อฟื้นฟู เพื่อช่วยให้ลูกค้าบุคคลและผู้ประกอบการสามารถฟื้นฟูกิจการ ซ่อมแซมหรือปรับปรุงที่อยู่อาศัยและสถานประกอบการ ตลอดจนลงทุนเพื่อกลับมาดำเนินธุรกิจได้ดั่งเดิม

นายธีระ ยีโกบ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารกลุ่มงานธุรกิจสาขา และผู้รับผิดชอบโครงการ Southern Sandbox กล่าวเพิ่มเติมว่า จากสถานการณ์มหาอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ที่เกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนพฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา ไอแบงก์ได้เร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่องในหลายมิติ ครอบคลุมทั้งมาตรการทางการเงิน “ไอแบงก์ไม่ทิ้งกัน” เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้เดิมของธนาคาร

สำหรับมาตรการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟู ผู้ประสบอุทกภัย ตามนโยบายของกระทรวงการคลัง ในการที่จะช่วยเหลือลูกค้าของธนาคารที่มีผลกระทบต่อรายได้และความสามารถในการชำระหนี้ภายหลังจากประสบภัยพิบัติ ครอบคลุม 10 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

ทั้งนี้ คณะกรรมการธนาคารได้มีนโยบายเร่งให้ฝ่ายจัดการช่วยเหลือลูกค้าและออกมาตรการสอดรับกับนโยบายรัฐบาลเพื่อบรรเทาภาระทางการเงิน พร้อมเสริมสภาพคล่องให้ลูกหนี้บุคคลและผู้ประกอบการรายย่อยสามารถยืนหยัดและกลับมาฟื้นตัวได้เร็วที่สุด ด้วย 3 มาตรการ ดังนี้

1. มาตรการช่วยเหลือพักชำระหนี้

ธนาคารพักชำระเงินต้นและยกเว้นกำไรสูงสุด 12 เดือน สำหรับลูกหนี้ที่มียอดเงินต้นคงเหลือของสินเชื่อรวมทุกบัญชีไม่เกิน 1 ล้านบาท

พักชำระทั้งเงินต้นและกำไร 3 เดือน สำหรับลูกหนี้ที่มียอดเงินต้นคงเหลือของสินเชื่อรวมทุกบัญชีเกิน 1 ล้านบาท

ลูกหนี้ที่ประสงค์ขอความช่วยเหลือในมาตรการ 1 สามารถยื่นความประสงค์ขอเข้าร่วมมาตรการภายในวันที่ 31 มกราคม 2569

2. มาตรการสินเชื่อเยียวยา

ธนาคารให้วงเงินสินเชื่อไม่เกิน 100,000 บาท (ภายใต้วงเงินสินเชื่อสัญญาเดิม) พร้อมยกเว้นกำไร 6 เดือนแรก สำหรับลูกค้าที่มีการชำระเงินต้นในสัญญาเดิมมาแล้วตั้งแต่ 10,000 บาท ขึ้นไป

กรณีลูกค้าชำระเงินต้นในสัญญาเดิมมาแล้วเกินกว่า 100,000 บาท จะได้รับการพิจารณาให้วงเงินได้ไม่เกิน 100,000 บาท พร้อมสิทธิอัตรากำไร 0% ตลอดระยะเวลา 12 เดือน พร้อมปลอดชำระเงินต้น 6 เดือนแรก ผ่อนได้นานสูงสุด 3 ปี และอัตรากำไรปีที่ 2 และ 3 เท่ากับ SPRR (ปัจจุบันเท่ากับ 8.05% ต่อปี)

ลูกหนี้ที่ประสงค์ขอความช่วยเหลือในมาตรการ 2 สามารถยื่นความประสงค์ขอเข้าร่วมมาตรการภายในวันที่ 31 มีนาคม 2569 

3. มาตรการสินเชื่อฟื้นฟู

ธนาคารพิจารณาให้วงเงินสินเชื่อประเภทนี้สูงสุด 5 ล้านบาทสำหรับลูกค้าสินเชื่อธุรกิจ SMEs และสูงสุด 1 ล้านบาทสำหรับลูกค้าสินเชื่อบุคคล โดยวงเงิน 1 ล้านบาทแรก อัตรากำไร 0% ตลอดระยะเวลา 12 เดือน พร้อมปลอดชำระเงินต้น 3 เดือน

ลูกหนี้ที่ประสงค์ขอความช่วยเหลือในมาตรการ 3 สามารถยื่นความประสงค์ขอเข้าร่วมมาตรการภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2569 โดยอัตรากำไรและระยะเวลาผ่อนชำระ มีรายละเอียด ดังนี้

  • ลูกค้าสินเชื่อบุคคล :  ปีที่ 1 คิดอัตรากำไร 0% ปีที่ 2 : SPRL-3.50% (ปัจจุบัน 4.30%) ปีที่ 3 เป็นต้นไป : SPRL-1.50% (ปัจจุบัน 6.30%) ระยะเวลาผ่อนได้นานสูงสุด 20 ปี   
  • ลูกค้าสินเชื่อธุรกิจ : ปีที่ 1 คิดอัตรากำไรพิเศษ 0% สำหรับ วงเงิน 1 ล้านบาทแรก และอัตรากำไร SPRL-1.50% (ปัจจุบัน = 6.30%) สำหรับวงเงินส่วนที่เกิน 1 ล้านบาท และปีที่ 2: SPRL-1.50% (ปัจจุบัน = 6.30%) ส่วนปีที่ 3 เป็นต้นไป : SPRL (ปัจจุบัน = 7.80%)    ผ่อนได้นานสูงสุด 7 ปี 

โดยผู้ประสงค์ขอเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟู ตามนโยบายกระทรวงการคลัง ต้องมีภูมิลำเนาหรือสถานประกอบการหรืออาศัยอยู่ในพื้นที่ประสบภัยพิบัติอุทกภัย 10 จังหวัด ตามที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กำหนดตามประกาศกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และมีหลักฐานแสดงว่าได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติอุทกภัย

สามารถลงทะเบียนขอเข้าร่วมมาตรการได้ที่เว็บไซต์ www.ibank.co.th หรือที่ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) ทุกสาขาใกล้บ้าน ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป