ดร.ทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการและผู้จัดการ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ไอแบงก์พร้อมดำเนินมาตรการดังกล่าวอย่างเต็มศักยภาพ เพื่อให้ความช่วยเหลือเข้าถึงลูกค้าธนาคารได้อย่างรวดเร็ว ทั่วถึง และสอดคล้องกับหลักการของสถาบันการเงินอิสลามที่ยึดมั่นในการยืนเคียงข้างลูกหนี้ในยามเกิดวิกฤต มาตรการดังกล่าวประกอบด้วย 3 มาตรการสำคัญ ครอบคลุมการช่วยเหลือลูกหนี้ในทุกระยะ ได้แก่
นายธีระ ยีโกบ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารกลุ่มงานธุรกิจสาขา และผู้รับผิดชอบโครงการ Southern Sandbox กล่าวเพิ่มเติมว่า จากสถานการณ์มหาอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ที่เกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนพฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา ไอแบงก์ได้เร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่องในหลายมิติ ครอบคลุมทั้งมาตรการทางการเงิน “ไอแบงก์ไม่ทิ้งกัน” เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้เดิมของธนาคาร
สำหรับมาตรการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟู ผู้ประสบอุทกภัย ตามนโยบายของกระทรวงการคลัง ในการที่จะช่วยเหลือลูกค้าของธนาคารที่มีผลกระทบต่อรายได้และความสามารถในการชำระหนี้ภายหลังจากประสบภัยพิบัติ ครอบคลุม 10 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
ทั้งนี้ คณะกรรมการธนาคารได้มีนโยบายเร่งให้ฝ่ายจัดการช่วยเหลือลูกค้าและออกมาตรการสอดรับกับนโยบายรัฐบาลเพื่อบรรเทาภาระทางการเงิน พร้อมเสริมสภาพคล่องให้ลูกหนี้บุคคลและผู้ประกอบการรายย่อยสามารถยืนหยัดและกลับมาฟื้นตัวได้เร็วที่สุด ด้วย 3 มาตรการ ดังนี้
ธนาคารพักชำระเงินต้นและยกเว้นกำไรสูงสุด 12 เดือน สำหรับลูกหนี้ที่มียอดเงินต้นคงเหลือของสินเชื่อรวมทุกบัญชีไม่เกิน 1 ล้านบาท
พักชำระทั้งเงินต้นและกำไร 3 เดือน สำหรับลูกหนี้ที่มียอดเงินต้นคงเหลือของสินเชื่อรวมทุกบัญชีเกิน 1 ล้านบาท
ลูกหนี้ที่ประสงค์ขอความช่วยเหลือในมาตรการ 1 สามารถยื่นความประสงค์ขอเข้าร่วมมาตรการภายในวันที่ 31 มกราคม 2569
ธนาคารให้วงเงินสินเชื่อไม่เกิน 100,000 บาท (ภายใต้วงเงินสินเชื่อสัญญาเดิม) พร้อมยกเว้นกำไร 6 เดือนแรก สำหรับลูกค้าที่มีการชำระเงินต้นในสัญญาเดิมมาแล้วตั้งแต่ 10,000 บาท ขึ้นไป
กรณีลูกค้าชำระเงินต้นในสัญญาเดิมมาแล้วเกินกว่า 100,000 บาท จะได้รับการพิจารณาให้วงเงินได้ไม่เกิน 100,000 บาท พร้อมสิทธิอัตรากำไร 0% ตลอดระยะเวลา 12 เดือน พร้อมปลอดชำระเงินต้น 6 เดือนแรก ผ่อนได้นานสูงสุด 3 ปี และอัตรากำไรปีที่ 2 และ 3 เท่ากับ SPRR (ปัจจุบันเท่ากับ 8.05% ต่อปี)
ลูกหนี้ที่ประสงค์ขอความช่วยเหลือในมาตรการ 2 สามารถยื่นความประสงค์ขอเข้าร่วมมาตรการภายในวันที่ 31 มีนาคม 2569
ธนาคารพิจารณาให้วงเงินสินเชื่อประเภทนี้สูงสุด 5 ล้านบาทสำหรับลูกค้าสินเชื่อธุรกิจ SMEs และสูงสุด 1 ล้านบาทสำหรับลูกค้าสินเชื่อบุคคล โดยวงเงิน 1 ล้านบาทแรก อัตรากำไร 0% ตลอดระยะเวลา 12 เดือน พร้อมปลอดชำระเงินต้น 3 เดือน
ลูกหนี้ที่ประสงค์ขอความช่วยเหลือในมาตรการ 3 สามารถยื่นความประสงค์ขอเข้าร่วมมาตรการภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2569 โดยอัตรากำไรและระยะเวลาผ่อนชำระ มีรายละเอียด ดังนี้
โดยผู้ประสงค์ขอเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟู ตามนโยบายกระทรวงการคลัง ต้องมีภูมิลำเนาหรือสถานประกอบการหรืออาศัยอยู่ในพื้นที่ประสบภัยพิบัติอุทกภัย 10 จังหวัด ตามที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กำหนดตามประกาศกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และมีหลักฐานแสดงว่าได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติอุทกภัย
สามารถลงทะเบียนขอเข้าร่วมมาตรการได้ที่เว็บไซต์ www.ibank.co.th หรือที่ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) ทุกสาขาใกล้บ้าน ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป