บสย.ยืดเวลาค้ำสินเชื่อเช่าซื้อ ‘กระบะพี่ มีคลังค้ำ’ ถึง 30 ธ.ค.69

10 ธ.ค. 2568 | 02:33 น.
อัปเดตล่าสุด :10 ธ.ค. 2568 | 02:37 น.

บสย.ยืดเวลาค้ำประกันสินเชื่อเช่าซื้อ ‘กระบะพี่ มีคลังค้ำ’ ถึง 30 ธ.ค.69 ช่วยเอสเอ็มอีมีเครื่องมือทำมาหากิน ต่อยอดธุรกิจ

นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) กล่าวว่า ปัจจุบันมาตรการ “กระบะพี่ มีคลังค้ำ” มีวงเงินค้ำประกันรวม 3,700 ล้านบาท มาพร้อมสิทธิประโยชน์ ฟรี! ค่าธรรมเนียมค้ำประกัน 3 ปีแรก ส่วนปีที่ 4-7 คิดค่าธรรมเนียมค้ำประกันต่ำเพียง 1.5% ต่อปี ของภาระหนี้ค้ำประกันในแต่ละปี พร้อมค้ำประกันสูงสุด 7 ปี หรือ 84 งวด วงเงินค้ำประกันสูงสุด 1.5 ล้านบาทต่อราย 

“ตั้งเป้ามาตรการนี้จะช่วย “ปลดล็อก” SMEs ให้สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น ทั้งช่วยสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ซบเซาให้กลับมาคึกคัก ซึ่งจะส่งผลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในภาพรวม”

นายสิทธิกร กล่าวว่า หลังจากมาตรการ “กระบะพี่ มีคลังค้ำ” ขยายเวลาค้ำประกันออกไปอีก 1 ปี ต่างได้รับเสียงตอบรับจากลีสซิ่งกลุ่มกระบะ ทั้งลีสซิ่งของค่ายรถยนต์ (Captive Finance) และลีสซิ่ง ที่เป็นบริษัทลูกของสถาบันการเงิน

นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)

ซึ่งปัจจุบัน บสย. ค้ำประกันสินเชื่อเช่าซื้อผู้ให้บริการทั้งจากสถาบันการเงินและกลุ่มลีสซิ่ง รวม 8 แห่ง ประกอบด้วย 

  1. ธนาคารเกียรตินาคินภัทร
  2. ธนาคารทหารไทยธนชาต
  3. ธนาคารทิสโก้
  4. ลีสซิ่งกสิกรไทย
  5. กรุงศรี ออโต้
  6. ลีสซิ่ง ไอซีบีซี
  7. โตโยต้า ลีสซิ่ง  
  8. ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง

นายธีรชาติ จิรจรัสพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด ในนามของประธานคณะทำงานสินเชื่อรถยนต์ ภายใต้สมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า การต่ออายุโครงการ ‘กระบะพี่ มีคลังค้ำ’ เป็นความร่วมมือที่ช่วยให้สถาบันการเงินสามารถสนับสนุน SMEs และเกษตรกรได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น โดยเฉพาะการเข้าถึงสินเชื่อเช่าซื้อที่เป็นหัวใจสำคัญของผู้ประกอบการจำนวนมาก 

โดยบทบาทของ บสย. มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงด้านเครดิตของธนาคาร ทำให้ธนาคารสมาชิกสามารถปล่อยสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการที่มีศักยภาพได้เพิ่มขึ้น เป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจโดยรวม ทั้งเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยให้กลุ่ม SMEs กลุ่มเปราะบาง มีโอกาสในการเข้าถึงรถกระบะเพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจ ช่วยเสริมทั้งรายได้และศักยภาพการแข่งขันของผู้ประกอบการไทย

“คณะทำงานฯ เห็นความสำคัญของความร่วมมือกับ บสย. ในครั้งนี้ และพร้อมสนับสนุนความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคการเงินในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยและตลาดรถยนต์ให้เติบโตเข้มแข็ง และยั่งยืน”