กรุงไทยพร้อมลุย Virtual Bank หนุนฐานรากเข้าถึงสินเชื่อในระบบ

25 พ.ย. 2568 | 23:23 น.

กรุงไทยพร้อมลุย Virtual Bank ผนึกพาร์ทเนอร์ หนุนฐานรากเข้าถึงสินเชื่อในระบบ ระบุแบงก์มีฐานลูกค้ากว่า 73 ล้านคน สาขาแบงก์ยังจำเป็น

นายสุริพงษ์ ตันติยานนท์ ประธานผู้บริหาร Retail Banking ธนาคารกรุงไทย  เปิดเผยว่า การเดินหน้าธนาคารไร้สาขา หรือ Virtual Bank เป็นหนึ่งในเครื่องยนต์ใหม่ที่เป็นกลไกสำคัญในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ของกรุงไทย ซึ่งเป็นไปตามยุทศาสตร์ที่ 2 ในการการเพิ่มโอกาสเข้าถึงบริการทางการเงิน  (Financial Inclusion) และลดความเหลื่อมล้ำ ให้กับกลุ่มที่เข้าไม่ถึงบริการทางการเงิน

สำหรับ Virtual Bank จะเข้ามาเสริม มาเป็น strategic focus ของกรุงไทย ในด้านการช่วยให้เข้าถึงกลุ่มคนที่ยังไม่ได้รับบริการทางการเงินหรือยังเข้าถึงได้ไม่เต็มที่ โดยกรุงไทยจะใช้ Alternative Data ที่ได้จากพาร์ทเนอร์ ได้แก่ บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) และ บมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) มาประกอบการพิจารณาเป็นการคิดใหม่ ทำใหม่ เพื่อให้บริการลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ เหล่านี้ได้

“ที่มาที่ไปของการทำ Virtual Bank คือ เราเห็นปัญหาของกลุ่มที่เข้าถึงบริการทางการเงินได้ไม่เต็มที่ เพราะไม่มีข้อมูลในระบบที่เพียงพอให้ธนาคารให้บริการได้ปกติ เช่น กลุ่มรากหญ้า หรือ กลุ่มไม่มีข้อมูลในเครดิตบูโร ซึ่งมั่นใจว่า Virtual Bank จะมาช่วยให้เราเข้าถึงคนกลุ่มนี้ ได้แน่ๆ“

นายสุริพงษ์ ตันติยานนท์ ประธานผู้บริหาร Retail Banking ธนาคารกรุงไทย

ทั้งนี้ ในฐานะที่กรุงไทย เป็นธนาคารพาณิชย์ของรัฐ ปัจจุบันมีฐานลูกค้ารวมกว่า 73 ล้านคน แบ่งเป็น ลูกค้ากลุ่มโมบายแบงก์กิ้ง 21 ล้านคน, แอปพลิเคชันเป๋าตัง 40 ล้านคน, แอปพลิเคชันไลน์ 23 ล้านคน,และร้านค้าในแอปพลิเคชันถุงเงิน 2 ล้านคน ซึ่งกรุงไทยมีสาขา 960 ทั่วประเทศ 

“เรามองว่าสาขาของธนาคารยังมีความจำเป็น เพื่อรองรับลูกค้า โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มฐานรากที่เข้ามาใช้บริการจากนโยบายของรัฐบาลอย่างโครงการคนละครึ่งพลัส”

ขณะที่สถานการณ์หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของกรุงไทยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 อยู่ที่ 2.9% ลดลงมาจากปี 2563 สัดส่วนอยู่ที่ระดับ 3.8% จากนโยบายเข้าไปดูแลลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

ด้านนายธวัชชัย ชีวานนท์ ประธานผู้บริหาร Product & Business Solutions ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ธนาคารได้กำหนด 5 ยุทธศาสตร์การดำเนินงานหลัก ในปี 2569 ได้แก่

1.  มุ่งเน้นการใช้ความสัมพันธ์และการเชื่อมต่อกับหน่วยงานภาครัฐเพื่อสร้างรายได้และทำธุรกิจกับลูกค้าในกลุ่มธุรกิจ SME และรายย่อยให้ดีมากยิ่งขึ้น 

2. สร้างแพลตฟอร์มที่ส่งเสริมการเติบโตในอนาคต เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างครบวงจร ทำให้ประชาชนทุกระดับชั้นเข้าถึงแหล่งเงินทุนและบริการทางการเงินได้ดียิ่งขึ้น และเป็นมากกว่า

การให้บริการทางการเงิน

3. ยกระดับการให้บริการลูกค้าทั้งระบบแบบ End to End นำเสนอรูปแบบและวิธีการบริการใหม่ๆ จากต้นจนจบที่ทันสมัย รวดเร็ว ปลอดภัย และเชื่อมโยงกันมากขึ้น 

4.พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีและข้อมูลให้พร้อมสำหรับการก้าวสู่อนาคต เพื่อสนับสนุนการส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีที่สุด 

5.ขับเคลื่อนวัฒนธรรมและการทำงานรูปแบบใหม่ เพื่อให้พร้อมต่อทุกความท้าทายและทุกการเปลี่ยนแปลง สร้างรูปแบบใหม่ในการทำงาน 

ทั้งนี้ ธนาคารกรุงไทยตั้งเป้า ROE ต้องเติบโตมากกว่า 10% ตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป เนื่องจากต้องการให้ให้ผู้ถือหุ้นเริ่มเห็นมูลค่าของธนาคารสะท้อนออกมาที่ราคาหุ้นมากขึ้น โดย ROE ปัจจุบันอยู่ที่ 12.80%