จับตาตัวเลขสินเชื่อแบงก์ไตรมาส2 ในงานแถลงข่าวบ่ายนี้

27 ส.ค. 2567 | 01:30 น.

แบงก์ชาติแถลงข่าวภาพรวมธนาคารพาณิชย์ ไตรมาส 2 บ่ายนี้ จับตายอดสินเชื่อ หลังไตรมาสแรกขยายตัวเล็กน้อย 0.7% จากสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ในภาคอุตสาหกรรม

ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) จะแถลงข่าวสรุปภาพรวมธนาคารพาณิชย์ ไตรมาส 2 ปี 2567 ในวันนี้( 27 ส.ค.67) เวลา 13.00 – 14.00 น. ณ ห้องแถลงข่าว อาคาร 2 ชั้น 1 ธปท. โดยคุณสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน และคุณอัจจนา ล่ำซำ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตรวจสอบแบบจำลองและวิเคราะห์ความเสี่ยงสถาบันการเงิน

จับตาตัวเลขสินเชื่อแบงก์ไตรมาส2  ในงานแถลงข่าวบ่ายนี้

ทั้งนี้มีประเด็นที่น่าจับตา ภาพรวมสินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์จะขยายตัวต่อเนื่องจากไตรมาส 1 ปี 2567 ที่กลับมาขยายตัวเล็กน้อยที่ 0.7% จากระยะเดียวกันปีก่อน จากสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ในภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอาหาร ปิโตรเลียมและเคมีภัณฑ์ ขณะที่สินเชื่ออุปโภคบริโภคขยายตัวชะลอลงในเกือบทุกพอร์ต ยกเว้นสินเชื่อรถยนต์ที่ยังคงหดตัว

ส่วนยอดคงค้างสินเชื่อด้อยคุณภาพ (non-performing loan: NPL หรือ stage 3) ไตรมาส 1 ปี 2567 เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 502.6 พันล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน NPL ต่อสินเชื่อรวมที่ 2.74% เพิ่มขึ้นโดยหลักจากสินเชื่อธุรกิจ (ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการจัดชั้นเชิงคุณภาพ) และสินเชื่อที่อยู่อาศัย

ขณะที่ธนาคารพาณิชย์ยังบริหารจัดการคุณภาพหนี้และให้ความช่วยเหลือลูกหนี้อย่างต่อเนื่อง สำหรับสัดส่วนสินเชื่อที่มีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของความเสี่ยงด้านเครดิตต่อสินเชื่อรวม (significant increase in credit risk: SICR หรือ stage 2) อยู่ที่ 6.13% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน โดยส่วนหนึ่งเป็นลูกหนี้ที่ยังชำระหนี้ได้ตามสัญญา แต่ถูกจัดชั้นเชิงคุณภาพ

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2567 ปรับดีขึ้นจากไตรมาสก่อน โดยหลักจากค่าใช้จ่ายดำเนินงานและค่าใช้จ่ายสำรองที่ลดลง ขณะที่รายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลงจากต้นทุนเงินรับฝากที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ Net Interest Margin (NIM) ของระบบธนาคารพาณิชย์ปรับลดลง

อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามความสามารถในการชำระหนี้ธุรกิจ SMEs ขนาดเล็ก และครัวเรือนบางกลุ่มที่ยังมีฐานะการเงินเปราะบางจากรายได้ที่ฟื้นตัวช้า ซึ่งคาดว่าจะยังส่งผลให้ NPL ทยอยปรับเพิ่มขึ้น แต่ยังอยู่ในระดับที่สามารถบริหารจัดการได้และไม่เกิดการเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด (NPL cliff)

สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ไตรมาส 4 ปี 2566 ปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนเล็กน้อย ขณะที่ภาคธุรกิจมีสัดส่วนหนี้สินต่อ GDP ทรงตัวจากเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัวและการก่อหนี้ที่กลับมาเร่งขึ้นเล็กน้อย

ด้านความสามารถในการทำกำไรโดยรวมยังคงปรับดีขึ้นจากปีก่อน แต่ปรับลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าจากภาคการผลิตและการส่งออกที่ชะลอลง ขณะที่ภาคบริการบางกลุ่มยังเผชิญแรงกดดันจากต้นทุนที่ยังคงอยู่ในระดับสูง