นายโยชิมาสะ ฮายาชิ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าววันนี้ (16 ก.ค.) ว่า ญี่ปุ่น พร้อมที่จะใช้มาตรการทั้งหมดที่มีและเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อต่อสู้กับความผันผวนของ ค่าเงินเยน ที่มากเกินไป ซึ่งการประกาศดังกล่าวทำให้ตลาดอยู่ในภาวะเฝ้าระวังและคาดหมายว่ามีโอกาสที่ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะเข้าแทรกแซงครั้งใหม่เพื่อหนุนค่าเงินเยนให้แข็งขึ้น หลังจากอ่อนยวบลงอย่างรวดเร็วมาอยู่ที่ระดับ 158.62 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐในวันนี้
"สิ่งสำคัญคืออัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต้องเคลื่อนไหวอย่างมีเสถียรภาพโดยสะท้อนพื้นฐานทางเศรษฐกิจ ความผันผวนที่มากเกินไปเป็นสิ่งที่ไม่พึงประสงค์" นายฮายาชิกล่าวในการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ พร้อมระบุว่า "เราจะติดตามพัฒนาการของอัตราแลกเปลี่ยนอย่างใกล้ชิด และพร้อมที่จะใช้มาตรการทั้งหมดที่เป็นไปได้"
อย่างไรก็ตาม นายฮายาชิปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเมื่อถูกถามว่า ญี่ปุ่นได้แทรกแซงตลาดเงินตราเพื่อสนับสนุนค่าเงินเยนเป็นเวลา 2 วันติดต่อกันในสัปดาห์ที่แล้วหรือไม่
ทั้งนี้ เทรดเดอร์ตลาดปริวรรตเงินตราตั้งข้อสงสัยว่า ทางการญี่ปุ่นได้เข้าแทรกแซงตลาดสองครั้งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเพื่อพยุงค่าเงินเยนที่ตกต่ำที่สุดในรอบ 38 ปี โดยเชื่อว่าการแทรกแซงตลาดครั้งแรกมีขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดี (11 ก.ค.) หลังมีรายงานตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐอเมริกาที่ชะลอตัวกว่าที่คาดการณ์ไว้ซึ่งทำให้ค่าเงินเยนขยับขึ้น และอีกครั้งเมื่อวันศุกร์ (12 ก.ค.)
ข้อมูลจากธนาคารกลางแห่งประเทศญี่ปุ่น หรือ BOJ แสดงให้เห็นว่า ญี่ปุ่นอาจใช้เงินแทรกแซงตลาดถึง 3.57 ล้านล้านเยน (ประมาณ 22,510 ล้านดอลลาร์) เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว ตลาดจะจับตาดูการเผยแพร่ข้อมูลของตลาดเงินในวันอังคารนี้ (16 ก.ค.) เพื่อประเมินว่าได้มีการแทรกแซงตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาด้วยหรือไม่
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ค่าเงินเยนพุ่งขึ้น 3% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐสู่ระดับ 157.40 เยนต่อดอลลาร์ หลังจากการแทรกแซงตลาดเมื่อวันพฤหัสบดี แต่หลังจากนั้นเงินเยนก็อ่อนค่าลงอีกครั้งจนหล่นมาอยู่ที่ระดับ 158.62 เยนต่อดอลลาร์ในวันนี้ (16 ก.ค.) ซึ่งใกล้แตะระดับ 160 เยนต่อดอลลาร์ ที่เป็นเขตแดนที่เชื่อว่าแตะระดับนี้เมื่อไหร่ ทางการญี่ปุ่นก็จะเข้าแทรกแซงตลาดเพื่อกระตุ้นค่าเงินในทันที
นักวิเคราะห์บางคนมองเห็นความคล้ายคลึงกันระหว่างการแทรกแซงที่ยังไม่ได้รับการยืนยันเมื่อสัปดาห์ที่แล้วกับการแทรกแซงเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา เมื่อความเห็นเชิงผ่อนคลายจากนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งผลกดดันค่าเงินดอลลาร์
ในทั้งสองกรณี เชื่อว่าญี่ปุ่นน่าจะเข้าแทรกแซงตลาดเมื่อค่าเงินดอลลาร์อยู่ในช่วงถดถอยเมื่อเทียบกับค่าเงินเยน
นายมาซาฟูมิ ยามาโมโตะ หัวหน้านักกลยุทธ์ค่าเงินที่บริษัทหลักทรัพย์มิตซูโฮ ซิเคียวริตีส์ ให้ความเห็นว่า ในครั้งนี้ การแทรกแซงเกิดขึ้นเมื่อค่าเงินดอลลาร์/เยนไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งหมายความว่า แบงก์ชาติญี่ปุ่นมีความกังวลเกี่ยวกับระดับของค่าเงินเยนที่ใกล้แตะ 160 เยนต่อดอลลาร์ มากกว่าความเร็วของการลดลง
แม้ว่าค่าเงินเยนที่อ่อนยวบลงจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ส่งออก แต่มันกลายเป็นประเด็นก่อความกังวลสำหรับรัฐบาลและรัฐสภา เนื่องจากค่าเงินที่อ่อนลงทำให้การบริโภคลดลง สวนกับต้นทุนการนำเข้าเชื้อเพลิงและอาหารที่พุ่งสูงขึ้น
รายงานข่าวระบุว่า ในระยะหลังๆนี้ เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นได้สร้างมาตรฐานเชิงปฏิบัติ ที่จะไม่ยืนยันว่าพวกเขาได้เข้าแทรกแซงในตลาดเงินตราหรือไม่