เศรษฐา กระทุ้ง "แบงก์ชาติ" รอบ 3 จ่อนัดคุยปม "ลดดอกเบี้ย"

22 ก.พ. 2567 | 07:08 น.

"นายกฯเศรษฐา ทวีสิน" กระทุ้ง "ผู้ว่าธปท." อีกรอบ หวังจับเข่าคุยปมลดดอกเบี้ย หลังโผล่จ้อสื่อนอกยันไม่ลดอัตราดอกเบี้ย ระบุ ขอให้กลับไปคิดถึงประชาชนที่เดือดร้อนบ้าง

นายเศรษฐา ทวีสิน  นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ที่อาคารรัฐสภาถึงกรณี "นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)" ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศยืนยันจะไม่มีการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายว่า ได้ยินมาเหมือนกัน ก็เป็นสิทธิ์ของท่าน แต่หน้าที่ของนายกฯคือการอธิบายให้ฟังถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน

"ความเป็นอิสระและความที่เราไม่ได้เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง  แต่ก็เชื่อว่าผมและผู้ว่าธปท. มีความสำคัญมีความสำคัญและให้เกียรติซึ่งกันและกัน ยืนยันว่าสิ่งที่มีการเรียกร้องไปผมมีเหตุและผล" นายเศรษฐา กล่าว

นายกฯ ส่วนที่ผู้ว่าธปท.บอกว่า 3 ข้อเศรษฐกิจไทยไปไม่ได้ เรื่องของปิโตรเลียม เรื่องนักท่องเที่ยวจีน เรื่องอะไรต่อมิอะไรและเรื่องจับจ่ายใช้สอยที่งบประมาณยังไม่ลงมารวดเร็วว่า เรื่องเหล่านี้ เชื่อว่ามีการพูดคุยกันอยู่แล้ว ให้จีนนำเข้าสินค้าไทยเพิ่มมากขึ้น ให้นักท่องเที่ยวจีนมาจับจ่ายใช้สอยในประเทศมากยิ่งขึ้น

ส่วนเรื่องค่าเดินทางแพง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคมก็กำลังทำให้ค่าเดินทางถูกลง ซึ่งรวมถึงตั๋งเครื่องบินลงใต้ฝัางอันดามันด้วย ทำให้มีเงินในกระเป๋าเยอะขึ้น สามารถจับจ่ายใช้สอยเพิ่มมากยิ่งขึ้น และในส่วนของงบประมาณเองทุกคนก็ทราบกันดีอยู่ว่า เราใช้นโยบายในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งตอนแรกคาดว่าจะใช้ได้เดือนพฤษภาคม แต่มีความเป็นไปได้มากว่าจะสามารถเริ่มใช้ได้ในเดือนเมษายน เรื่องนี้ทุกฝ่ายก็พยามทำกันอยู่แล้ว”นายเศรษฐากล่าว

นายกรัฐมนตรี  กล่าวอีกว่าในเรื่องของประชาชนความเดือดร้อนเป็นเรื่องสำคัญ และที่ท่านผู้ว่า ธปท. พูดออกมาสามข้อไม่มีเรื่องประชาชนเลย ผมอยากให้ท่านกลับไปคิดว่า วันนี้ประชาชนเดือดร้อนเราช่วยกันได้ ก็คงต้องพูดคุยกันต่อไป

ส่วนรัฐบาลได้ส่งสัญญาณไปแล้วถึง 3 ครั้งนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า "ก็จะทำครั้งที่ 4  ครั้งที่ 5 ต่อไป แล้วดูซิว่าคนอื่นจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย วันนี้เราอยู่ในสังคมที่เจริญและพัฒนาแล้ว มีความเห็นต่างก็พูดคุยกันได้ ไม่ได้มีการทะเลาะเบาะแว้ง หรือมีบรรยากาศที่ไม่ได้ทำงานร่วมกัน  แม้วันนี้จะยังไม่ได้รับการขานรับก็ยังต้องคุยต่อไป  และพยายามต่อไปใช้เหตุและผล  ตัวเลขการชี้นำของเศรษฐกิจต่างๆ ก็บ่งบอกอะไรหลายๆอย่าง"

“ตัวเลข 2.5 ยังมีรูมเหลืออีกตั้งเยอะแยะ ถ้าเกิดมีวิกฤตอะไรเกิดขึ้น 2.5 ไม่ได้เป็นอะไรที่ จะทำให้ไม่สามารถ เคลื่อนนโยบายต่างๆได้ รองผู้ว่า ธปท. ก็เคยมาคุยและอธิบายให้ผมฟัง ว่าถ้าเราอัตราดอกเบี้ยลงไป คนที่มีเงินฝากแบงค์อยู่ ก็จะไปดูในเรื่องของสินทรัพย์เสี่ยง ที่มีความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น เพื่อหา return ที่สูงขึ้น คนที่อยู่คนคือคนที่อยู่ท้อปด้านบน แต่วันนี้เราพูดถึงคนที่อยู่ฐานรากมากกว่า ก็อยากให้ท่านคำนึงถึงพี่น้องประชาชนในมิติอื่นๆด้วย” นายเศรษฐากล่าว

เมื่อถามย้ำว่าผู้ว่าฯธปท. เคยพูดตรงๆ ถึงเหตุผลหรือไม่ถึงเห็นต่าง  นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็อธิบายและพูดคุยกันไป เป็นเรื่องที่คุยกับท่าน ซึ่งต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน

ส่วนการที่ผู้ว่า ธปท. บอกว่าการลดอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่ากำหนด จะส่งผลต่อภาวะหนี้ครัวเรือน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นี่ครัวเรือนปัจจุบันก็สูงอยู่แล้ว  และคุณก็ไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น แล้วดอกเบี้ยค้างจ่ายไปอยู่ที่ไหน ก็ไปอยู่ที่หนี้หนี้ครัวเรือนก็ยิ่งสูงขึ้นไปอีก

เมื่อถามย้ำว่าจำเป็นต้องจับเขาคุยแบบจริงจังกับผู้ว่าฯธปท. อีกครั้งหรือไม่ เนื่องจากนโยบายการเงินและการคลังไม่สอดคล้องกัน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็คงเป็นในลักษณะนั้น  ส่วนจะนัดเมื่อไหร่ขอให้ถึงเวลาอันสมควร