ไทยพาณิชย์ประกาศ 3 ปีขึ้นเบอร์ 1 บริหารความมั่งคั่ง

17 ก.พ. 2566 | 05:47 น.

ไทยพาณิชย์ อัดงบ 1 หมื่นล้านต่อยอดธุรกิจจากดาต้า ตั้งเป้า 3 ปี สร้างผลตอบแทนผู้ถือหุ้น(ROE) มากกว่า 10% ส่วนแบ่ง wealth wallet share อันดับ 1 พร้อมขึ้นแท่นที่หนึ่งในใจลูกค้าทุกกลุ่มในปี 68

นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์เปิดเผยว่า เป้าหมายทางธุรกิจปี 2566 ธนาคารเน้นสร้างสมดุลของการขยายพอร์ตสินเชื่อควบคู่กับการรักษาคุณภาพ โดยตั้งเป้าการเติบโตสินเชื่อไม่เกิน 5% และสร้างผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) มากกว่า 10% ขณะที่อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ตั้งเป้าไว้ที่ประมาณ 40%

นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์

อย่างไรก็ตาม หลังจากปรับกระบวนการให้เป็นดิจิทัลอย่างครบวงจรตามแผน 3 ปี ในปี 2568 ธนาคารมีเป้าหมายจะลดอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ให้ต่ำกว่า 40% รวมถึงการเป็นอันดับ 1 wealth wallet share พร้อมผลักดันสินเชื่อสีเขียว (Green Finance) เพิ่มอีก 1 แสนล้านบาท ตามเจตนารมณ์ด้านความยั่งยืน(ESG)

สำหรับปี 2566 ธนาคารไทยพาณิชย์ได้เปิดวิสัยทัศน์ “Digital Bank with Human Touch”โดยชูยุทธศาสตร์ดาวเหนือ กำหนดทิศทางองค์กรสู่ดิจิทัลแบงก์ ด้วยพันธกิจสำคัญในการเป็น “ดิจิทัลแบงก์ที่เป็นอันดับหนึ่งด้านการบริหารความมั่งคั่ง พร้อมให้บริการที่เชื่อมถึงกันอย่างไร้รอยต่อในทุกช่องทาง” มุ่งมั่นพัฒนาเป็นธนาคารที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ต่อยอดความแข็งแกร่งการให้บริการแบบครบวงจร

“ ภายใน 3ปีหรือในปี 2568เป้าหมายเป็นอันดับหนึ่งด้านบริหารความมั่งคั่ง(Wealth)นั้น จะขยายลูกค้าเพิ่มเป็น 6แสนรายและมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) ที่ 2ล้านล้านบาท จากปัจจุบันมีฐานลูกค้า 4แสนรายและAUMประมาณ 1.6แสนล้านบาทสำหรับเม็ดเงินลงทุนด้านเทคโนโลยีภาพรวมที่จะพัฒนานั้น 7,000-10,000ล้านบาทภายใน3ปี”

ไทยพาณิชย์ประกาศ 3 ปีขึ้นเบอร์ 1 บริหารความมั่งคั่ง

“ด้วยยุทธศาสตร์ดาวเหนือของธนาคารจะผลักดันให้ไทยพาณิชย์เป็นธนาคารที่ดีขึ้นตามวิสัยทัศน์ Digital Bank with Human Touch สร้างความประทับใจให้ลูกค้าด้วยบริการที่รู้จักลูกค้าผ่านข้อมูล และรู้ใจลูกค้าผ่านความรู้สึก และก้าวสู่การเป็นที่หนึ่งในใจลูกค้าทุกกลุ่มในปี 2568”นายกฤษณ์กล่าว

ทั้งนี้ยุทธศาสตร์ดาวเหนือนำทางธุรกิจภายใต้แผน 3 ปี ประกอบด้วย 3 เรื่องหลัก คือ

  • 1.ปรับองค์กรเป็นธนาคารดิจิทัล หลังจากธนาคารผ่านช่วง digital disruption ที่กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีที่เข้ามาแข่งขันในภาคการเงินแล้วพบว่า มีเพียงไม่กี่รายที่สามารถทำกำไรได้  ขณะที่ธนาคารส่วนใหญ่ยังคงมีผลกำไรต่อเนื่อง ด้วยฐานเงินทุนที่แข็งแกร่งและมีจุดเด่นทางด้านบริการที่ชัดเจนมากกว่า

ขณะเดียวกันแนวโน้มการใช้งานดิจิทัลของคนไทยอยู่ในระดับสูง มีการใช้แอปพลิเคชันการเงินเป็นอันดับหนึ่งในอาเซียน และประมาณ 94% ของคนไทยเข้าถึงบริการทางการเงินและมีความต้องการใช้บริการดิจิทัลเพิ่มขึ้น ธนาคารจึงต้องมีการยกระดับบริการสู่ธนาคารดิจิทัลอย่างเต็มตัว และมอบบริการการเงินดิจิทัลให้ได้อย่างครบวงจร โดยมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการด้านดิจิทัลสำหรับลูกค้าทุกกลุ่ม พร้อมเชื่อมโยงข้อมูลทางด้านบริการเพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ให้แก่ลูกค้า

ไทยพาณิชย์ประกาศ 3 ปีขึ้นเบอร์ 1 บริหารความมั่งคั่ง

ดังนั้นธนาคารได้ปรับโครงสร้างบริหารงาน เพื่อรวมงานทางด้านดิจิทัลแบงก์ เทคโนโลยีสารสนเทศและปฏิบัติการ เข้าไว้ด้วยกันภายใต้ความดูแลของผู้จัดการใหญ่ และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงาน Technology โดยทั้ง 3 ส่วนงานนี้เป็นส่วนสำคัญในการยกระดับธนาคารให้เป็นธนาคารดิจิทัลอย่างครบวงจร ไม่เพียงแต่ระบบการให้บริการเท่านั้น แต่จะมีส่วนสำคัญในการสร้างรายได้ และการเติบโตให้แก่ธนาคารต่อไปในอนาคต 

  • 2.เป็นเจ้าตลาดทางด้านบริหารความมั่งคั่ง ธนาคารได้วางรากฐานบริการด้านบริหารความมั่งคั่งไว้อย่างเพียบพร้อม ทั้งทางด้านบุคลากร ที่ปัจจุบันมีจำนวนที่ปรึกษาด้านการลงทุนที่ได้รับการรับรองจากสถาบันชั้นนำของเอเชียมากที่สุดในประเทศ ผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุนที่หลากหลาย พันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง ทั้งกลุ่มลูกค้าตามโครงสร้างภายใต้ยุทธศาสตร์ยานแม่ของกลุ่มเอสซีบี เอกซ์ ฐานลูกค้าปัจจุบันของธนาคารเป็นกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงระดับบน

ประกอบกับเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวหลังวิกฤตโควิดส่งผลให้เกิดกระแสความมั่งคั่งกลับคืนมา จึงเป็นโอกาสที่ธนาคารเตรียมความพร้อมเพื่อเสนอบริการบริหารความมั่งคั่งอย่างครบวงจร ไม่เพียงแต่เฉพาะต่อยอดความมั่งคั่งทางด้านทรัพย์สินส่วนบุคคคลเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการสร้างการเติบโตให้ธุรกิจของลูกค้า ทั้งการขยายธุรกิจ การระดมทุนรูปแบบต่างๆ หรือการขยายลงทุนในต่างประเทศ ให้แก่ลูกค้าธุรกิจและลูกค้าองค์กร ด้วยผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ถือเป็นการขยายความมั่งคั่งให้ลูกค้าได้ทุกกลุ่ม

“เราต้องผลักดันกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่เกิดขึ้นจากนี้ โดยกำลังริเริ่มโครงการในการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อสร้างความมั่งคั่งให้กับลูกค้าในวงกว้าง (Digital Wealth) ไม่เน้นเฉพาะกลุ่มลูกค้ามั่งคั่งที่มีอยู่แล้ว แต่มุ่งไปที่กลุ่ม Emerging Wealth ซึ่งเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพและมีความต้องการที่จะสร้างความมั่งคั่งระยะแรกเริ่ม อาจยังมีสินทรัพย์ไม่มากนักแต่มีความต้องการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มพูนความมั่งคั่งในระยะยาว”

ไทยพาณิชย์ประกาศ 3 ปีขึ้นเบอร์ 1 บริหารความมั่งคั่ง

  • 3.ยกระดับให้บริการที่เชื่อมถึงกันอย่างไร้รอยต่อในทุกช่องทาง ธนาคารเชื่อว่า พลังแห่งเทคโนโลยีเป็นเพียงส่วนหนึ่งของประสบการณ์ที่ลูกค้าจะได้รับผ่านช่องทางหนึ่งเท่านั้น แต่สิ่งสำคัญที่เป็นหัวใจของ Digital Bank with Human Touch คือ ประสบการณ์ที่ดี ณ จุดให้บริการผ่านช่องทางต่างๆ ของธนาคารที่มีอย่างหลากหลาย

ดังนั้นจึงมุ่งมั่นพัฒนาการให้บริการ โดยขยายการทำงานเชื่อมโยงกันอย่างไร้รอยต่อระหว่างจุดให้บริการลูกค้าทั้งในโลกดิจิทัลและโลกแห่งความเป็นจริง รวมถึงปรับปรุงและพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานให้มีความทันสมัย เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและความสามารถในการให้บริการในวงกว้าง เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้ทุกที่ ทุกเวลา ทุกช่องทางที่คุ้นเคย ผ่านช่องทางบริการที่หลากหลายด้วยมาตรฐานเดียวกันทุกช่องทาง

นอกจากนั้น ธนาคารยังให้ความสำคัญกับการสร้างสมดุลของพอร์ตสินเชื่อเพื่อการเติบโตยั่งยืน โดยจากนี้ไปธุรกิจของธนาคารจะเน้นไปที่ธุรกิจสินเชื่อที่มีหลักประกัน โดยวางเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่ออย่างค่อยเป็นค่อยไปและการบริหารอัตราผลตอบแทนที่ปรับด้วยความเสี่ยงและให้น้ำหนักกับลูกค้ากลุ่มที่มีคุณภาพสูง เพื่อพัฒนาคุณภาพสินทรัพย์ในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยมีทิศทางปรับเพิ่มสูงขึ้น และสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่อาจผันผวน

ขณะเดียวกันการดำเนินงานยังที่ให้ความสำคัญกับนโยบายความยั่งยืนในทุกๆ มิติ ทั้งการให้บริการลูกค้า และการบริหารงานภายใน โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 ธนาคารมีพอร์ตสินเชื่อรวมกันทั้งสิ้น 2.3 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นสินเชื่อบุคคล 9.8 แสนล้านบาท สินเชื่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอี 4.1 แสนล้านบาท และธุรกิจขนาดใหญ่ 9.2 แสนล้านบาท