ธปท.-ปปง.ผุดคณะทำงานสอบธุรกรรมเกี่ยวข้องทองคำ หลังเป็นตัวการดันบาทแข็ง

30 ธ.ค. 2568 | 05:08 น.
อัปเดตล่าสุด :30 ธ.ค. 2568 | 05:10 น.

ธปท.-ปปง.ยกระดับกำกับดูแลทองคำ รักตั้งคณะทำงานสอบธุรกรรมที่เกี่ยวข้อง หลังพบเป็นตัวการทำให้เงินบาทแข็งค่าอย่างมีนัยสำคัญ

KEY

POINTS

  • ธปท. และ ปปง. จัดตั้งคณะทำงานร่วมเพื่อตรวจสอบธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับทองคำ หลังปริมาณการซื้อขายที่สูงขึ้นส่งผลให้เงินบาทแข็งค่า
  • คณะทำงานจะเน้นการบูรณาการและแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อระบุตัวตนผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง (UBO) ป้องกันการใช้ตัวแทนอำพราง (Nominee) และวิเคราะห์พฤติกรรมที่น่าสงสัย
  • เป้าหมายหลักคือการยกระดับการกำกับดูแลให้มีประสิทธิภาพ ปิดช่องว่างทางกฎหมาย ป้องกันการฟอกเงิน และสร้างเสถียรภาพให้ระบบเศรษฐกิจ

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) เพื่อยกระดับกำกับดูแลธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับทองคำให้เข้มงวดยิ่งขึ้น เนื่องจากปัจจุบันราคาทองคำมีความผันผวนและพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์จนมีปริมาณการซื้อขายทองคำสูงขึ้นมากและเพิ่มแรงกดดันต่อค่าเงินบาทด้านแข็งค่าอย่างมีนัยสำคัญ  

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ธปท. ได้เพิ่มความเข้มงวดเกี่ยวกับการทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศของกลุ่มบริษัททองคำ และกำหนดให้กลุ่มผู้ค้าทองคำรายใหญ่รายงานข้อมูลการทำธุรกรรมการซื้อขายทองคำมาอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่สำนักงาน ปปง. ได้ดำเนินมาตรการเชิงรุกในหลายมิติเพื่อป้องกันมิให้ผู้กระทำความผิดใช้ผู้ประกอบธุรกิจค้าทองคำเป็นช่องทางในการฟอกเงิน อย่างไรก็ดี ปริมาณการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับทองคำยังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและส่งผลกดดันค่าเงินบาท ธปท. และสำนักงาน ปปง. จึงยกระดับการร่วมกันตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้าที่มีการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับทองคำ 

รวมถึงตรวจจับธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัยโดยเฉพาะธุรกรรมซื้อขายทองคำบนแพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีปริมาณธุรกรรมสูงขึ้นมากผิดปกติ 

ธปท.-ปปง.ผุดคณะทำงานสอบธุรกรรมเกี่ยวข้องทองคำ หลังเป็นตัวการดันบาทแข็ง

โดยร่วมกันจัดตั้ง คณะทำงานร่วมเพื่อตรวจสอบธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับทองคำ มีวัตถุประสงค์หลัก 3 ด้าน ประกอบด้วย

  • การเชื่อมโยงและบูรณาการข้อมูล ยกระดับการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานเพื่อปิดช่องว่างทางกฎหมาย โดยเน้นการระบุผู้ได้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง (Ultimate Beneficial Owner: UBO) ให้เข้มข้นขึ้นเพื่อป้องกันการใช้ตัวแทนอำพราง (Nominee) ในการซื้อขายทองคำปริมาณมาก และทำให้การติดตามบุคคลที่มีความเสี่ยงสูงทำได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันการณ์มากขึ้น  
  • การวิเคราะห์พฤติกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัย เพื่อกำหนดปัจจัยบ่งชี้พฤติกรรมผิดปกติ พร้อมทั้งเสนอแนวทางป้องกันและจัดการกับธุรกรรมที่ผิดปกติดังกล่าวได้อย่างเหมาะสม  
  • การกำหนดแนวทางการกำกับดูแลและตรวจสอบธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับทองคำ โดยจัดทำแนวทางการยกระดับการกำกับดูแลและตรวจสอบติดตามธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับทองคำให้ครอบคลุม เข้มข้น และ

มีประสิทธิภาพมากขึ้น ภายใต้อำนาจตามกฎหมายของแต่ละหน่วยงาน

“ความร่วมมือดังกล่าวจะทำให้การกำกับดูแลธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับทองคำมีประสิทธิภาพและเป็นระบบมากขึ้น เป็นการปิดช่องว่างที่ไม่มีหน่วยงานเฉพาะในการกำกับดูแลผู้ประกอบธุรกิจค้าทองคำรวมทั้งป้องกันมิให้การทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับทองคำถูกใช้เป็นเครื่องมือ
ในการสนับสนุนการกระทำผิดกฎหมาย เพิ่มความโปร่งใส และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในการลงทุนทองคำ ซึ่งจะนำไปสู่เสถียรภาพของระบบเศรษฐกิจและการเงินในภาพรวม”