KEY
POINTS
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดรับฟังความคิดเห็น และให้ข้อเสนอแนะ หรือเฮียริ่ง (Hearing) ต่อการกำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนเงิน ผ่านเว็บไซต์ของ ธปท. ตั้งแต่วันที่ 9 - 23 ธ.ค. 2568
โดยเนื้อหาสำคัญระบุว่า ผู้ที่ซื้อขายทองคำเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง ตั้งแต่ 10,000 ล้านบาทต่อปีขึ้นไป ต้องรายงานข้อมูลการทำธุรกรรมต่อ ธปท.
ในเอกสารประกอบการรับฟังความคิดเห็นต่อร่างหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการกำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนเงิน ที่ได้เปิดเผยต่อสาธารณชนผ่านเว็บไซต์ของ ธปท. ได้ชี้แจงว่า
สาเหตุของการปรับปรุงหลักเกณฑ์ในครั้งนี้ เกิดจากการที่ ปริมาณการซื้อขายทองคำในปัจจุบันมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยนอย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งนี้ เพื่อให้การดูแลอัตราแลกเปลี่ยนมีเสถียรภาพ และสร้างความเชื่อมั่นในการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ธปท. จึงเห็นความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มประสิทธิภาพในการติดตามข้อมูลธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายทองคำ เพราะนอกจากจะเป็นประโยชน์ในการประเมินผลกระทบต่อเสถียรภาพอัตราแลกเปลี่ยน ยังเป็นประโยชน์ต่อการกำหนดนโยบายการเงินที่เกี่ยวข้องในอนาคต
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา การซื้อขายทองคำในประเทศสามารถทำได้โดยไม่มีข้อจำกัด แต่ในการปรับปรุงกฎเกณฑ์ในครั้งนี้ ได้กำหนดให้ผู้ซื้อขายทองคำที่เข้าข่ายตามเกณฑ์ที่กำหนด เช่น ผู้ซื้อขายทองคำที่มีมูลค่าการซื้อขายรวมเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังตั้งแต่ 10,000 ล้านบาทต่อปี ต้องรายงานข้อมูลการทำธุรกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายทองคำต่อ ธปท. ตามเงื่อนไขที่กำหนด เช่น
แม้มาตรการดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อบุคคลหรือองค์กรต่างๆ ที่เป็นผู้ซื้อขายทองคำในปริมาณสูง และอาจเพิ่มภาระให้หลายฝ่ายในการรวบรวมข้อมูล และจัดทำรายงานการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายทองคำได้
แต่อย่างไรตาม แบงก์ชาติ ยังมองว่า ข้อกำหนดดังกล่าวจะทำให้หน่วยงานทางการสามารถติดตามธุรกรรมที่อาจมีผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และจะเป็นประโยชน์ต่อการดูแลเสถียรภาพอัตราแลกเปลี่ยนอันจะเป็นปัจจัยที่ช่วยเอื้อให้ภาคธุรกิจ และประชาชนมีความเชื่อมั่นในการดำเนินกิจกรรมการค้าการลงทุน รวมทั้งช่วยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ และเสถียรภาพทางเศรษฐกิจโดยรวม
ซึ่งการเข้ามาควบคุมของ ธปท. ในครั้งนี้ก็จะช่วยติดตาม และกำกับการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และการซื้อขายทองคำของผู้ประกอบการร้านทองทำได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ข้อมูลดังกล่าว อาจช่วยส่งเสริมมาตรการป้องกัน และปราบปรามธุรกรรมต้องสงสัย หรือ “เงินเทา” ที่จะมีออกมาในอนาคต