ตลท. เร่งเครื่อง พลิกเกมแข่งขันระดับภูมิภาค ดึง IPO คุณภาพ

03 ธ.ค. 2568 | 02:11 น.
อัปเดตล่าสุด :03 ธ.ค. 2568 | 02:25 น.

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เร่งเครื่อง เตรียม "Action Plan" ชุดใหญ่ พลิกเกม SET แข่งขันระดับภูมิภาค ชู 3 กลยุทธ์ ดึง IPO คุณภาพ มองเป้าหมาย ปี 69 ขาขึ้นตลาดทุนไทย

นายสรวิศ ไกรฤกษ์ รองผู้จัดการ สายงานผู้ออกหลักทรัพย์และ สายงานการตลาด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย  เปิดเผยในงาน "Meet the Press" ว่า ตลท. กำลังจัดทำ Action Plan เพื่อพลิกเกม IPO โดยคาดว่าจะนำเสนอรายละเอียดที่จับต้องได้ในช่วงต้นเดือนมกราคม 2569 โดยย้ำว่า ตลท. ไม่มีอำนาจในการห้ามบริษัทไปจดทะเบียน หรือห้ามนักลงทุนไปลงทุนในตลาดอื่น สิ่งที่สามารถทำได้คือ การเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขัน เพื่อให้ตลาดทุนไทยมีความน่าสนใจและดึงดูดมากขึ้น

3 เสาหลักกลยุทธ์ดัน SET แข่งขันได้

1. ความเร็วด้านกระบวนการนำบริษัทเข้าจดทะเบียน (IPO)

การนำบริษัทเข้าจดทะเบียนต้องรวดเร็ว เพื่อให้บริษัทสามารถคาดการณ์ได้ว่าจะเสร็จสิ้นเมื่อใดและสามารถซื้อขายได้เมื่อใด เพราะกระบวนการ IPO ในไทยถูกมองว่ามีความล่าช้า ซึ่งเป็นต้นทุนด้านเวลาของบริษัท ตลท. จึงกำลังทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เช่น ที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อปรับปรุงกระบวนการให้เร็วขึ้น

2. การเพิ่มสภาพคล่องการซื้อขาย

การเพิ่มความสามารถในการแข่งขันรวมถึงการสร้างแนวทางที่จะทำให้มีการซื้อขายหุ้นมากขึ้น และเพิ่มสภาพคล่องในตลาด เนื่องจากมีข้อสังเกตว่านักลงทุนต่างชาติหลายรายยังไม่ค่อยรู้จักบริษัทไทยที่จดทะเบียน หรือไม่เห็นพัฒนาการใหม่ ๆ ของบริษัทเหล่านั้น บริษัทที่จะทำ IPO จะเปรียบเทียบว่าตลาดใดให้มูลค่าสูงกว่า มีสภาพคล่องมากกว่า และมีกระบวนการที่รวดเร็ว

3. การพัฒนาและสร้างมูลค่าของบริษัทจดทะเบียน (บจ.)

ตลท. ได้ริเริ่ม “โครงการ JUMP+” เพื่อกระตุ้นให้บริษัทจดทะเบียนคิดถึงแผนการเติบโตในระยะกลางและระยะยาว รวมถึงการลงทุนในธุรกิจใหม่ ๆ หรือธุรกิจเชิงนวัตกรรม วัตถุประสงค์คือการเพิ่มผลตอบแทนต่อสินทรัพย์และผู้ถือหุ้น (ROE) ให้สูงขึ้น โดยโครงการนี้มีบริษัทเข้าร่วมแล้ว 90 บริษัท ซึ่งเป็นแนวทางที่ประสบความสำเร็จในเกาหลี ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ (Corporate Value-up Program)

ดึง New Economy และใช้โมเดล SET to BOI

เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับตลาด ตลท. เน้นการสนับสนุนกลุ่มธุรกิจใหม่ และกลุ่มเศรษฐกิจใหม่ (New Economy) เข้าจดทะเบียนในไทย โดยเฉพาะการผลักดันและดึงดูดบริษัทที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากบีโอไอ ภายใต้ความร่วมมือ “BOI to IPO” ในพื้นที่ EEC ซึ่งคาดว่าจะเห็นผลใน 1–2 ปี

นอกจากนี้ ยังสนับสนุนให้บริษัทจดทะเบียนปัจจุบันขอสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่เข้าเกณฑ์ BOI หรือที่เรียกว่า “SET to BOI” ซึ่งการดำเนินการนี้จะทำให้ตลาดทุนไทยมีซัพพลายที่น่าสนใจมากขึ้น และจะดึงดูดนักลงทุนต่างชาติที่เคยมองข้ามให้กลับมาสนใจ เนื่องจากบริษัทเหล่านี้จะมีการพัฒนาการและมีแผนธุรกิจใหม่ ๆ

นายสรวิศเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่นักลงทุนต้องเข้าใจว่า การลงทุนใน IPO ไม่ใช่การหวังกำไรระยะสั้น แต่ควรศึกษาข้อมูลรอบด้าน ทั้งแผนธุรกิจ ผลประกอบการ และวิสัยทัศน์ผู้บริหาร เพื่อเลือกบริษัทที่เหมาะสม สำหรับวิสัยทัศน์ในระยะยาว คือการทำให้ตลาดทุนไทยกลับมามีแรงดึงดูด และเป็นเวทีสำคัญของเศรษฐกิจไทย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและทำให้ SET ยังคงเป็นตัวเลือกที่แข่งขันได้ในระดับภูมิภาค