ค่าเงินบาทปิดตลาดวันที่ 31ต.ค.ที่ระดับ 32.30 บาทต่อดอลลาร์

31 ต.ค. 2568 | 11:01 น.
อัปเดตล่าสุด :31 ต.ค. 2568 | 13:12 น.

ค่าเงินบาทขยับแข็งค่าได้บางส่วนอานิสงส์จากทิศทางแข็งค่าของสกุลเงินเอเชีย แรงซื้อสุทธิพันธบัตรไทยของต่างชาติ  สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์หน้าระหว่าง 3-7พ.ย. ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 32.00-32.50 บาทต่อดอลลาร์

ค่าเงินบาทปิดตลาดวันที่ 31ต.ค.ที่ระดับ 32.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 32.38 บาทต่อดอลลาร์ฯ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า ค่าเงินบาทกลับมาเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ ช่วงปลายสัปดาห์ แต่ขยับแข็งค่าได้บางส่วนโดยน่าจะได้รับอานิสงส์จากทิศทางแข็งค่าของสกุลเงินเอเชีย แรงซื้อสุทธิพันธบัตรไทยของต่างชาติ

และตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยที่เกินดุลมากกว่าที่คาดในเดือนต.ค. สำหรับทิศทางฟันด์โฟลว์ในวันนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 538 ล้านบาท แต่ซื้อสุทธิพันธบัตรไทยต่อเนื่องอีก 2,872 ล้านบาท 

ส่วนค่าเฉลี่ย Indicative forward points ของธุรกรรมระยะ 3 เดือนสำหรับผู้ประกอบการที่มีรายได้ 50-200 ล้านบาทต่อปี รายงานข้อมูล ณ 10.00 น. วันที่ 31 ตุลาคม 2568 จากเว็บไซต์ ธปท. อยู่ที่ -24.35 สำหรับผู้ส่งออก (ขายเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า) และที่ -20.55 สำหรับผู้นำเข้า (ซื้อเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า)

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์หน้าระหว่าง 3-7พ.ย. ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 32.00-32.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนต.ค. ของไทย ฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ

ทิศทางค่าเงินเอเชียและราคาทองคำในตลาดโลก ส่วนปัจจัยต่างประเทศอื่น ๆ ที่ต้องติดตาม ประกอบด้วย คำตัดสินของศาลสหรัฐฯในประเด็นภาษีสินค้านำเข้าของปธน. โดนัลด์ ทรัมป์

สถานการณ์การชัตดาวน์ของสหรัฐฯ ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ผลการประชุมนโยบายการเงินของ BOE รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้แก่ ดัชนี PMI/ISM ภาคการผลิตและบริการ

และตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนของ ADP เดือนต.ค.  นอกจากนี้ ตลาดยังรอติดตามข้อมูลการส่งออกเดือนต.ค. ของจีน และดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการเดือนต.ค. ของจีน ญี่ปุ่น อังกฤษ และยูโรโซนด้วยเช่นกัน