นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) เปิดเยว่า เมื่อวันที่ 14 ก.ค. 2568 บริษัทย่อยคือ กัลฟ์ เวสท์ ทู เอ็นเนอร์จี โฮลดิ้งส์ (GWTE) ได้เข้าซื้อหุ้นเพิ่มเติมในโครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม และโรงงานผลิตเชื้อเพลิงแข็งจากขยะ
อุตสาหกรรมที่บริษัท เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอนเมนท์ (ETC) ถือในโครงการโรงไฟฟ้าชยะอุตสาหกรรม และชื่อหุ้นทั้งหมดที่บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน (BWG) ถือในโครงการโรงงานผลิตเชื้อเพลิงแข็งจากขยะอุตสาหกรรม มูลค่าเงินลงทุนรวมทั้งสิ้นประมาณ 1,100 ล้านบาท ส่งผลให้โครงการทั้งหมดเป็นบริษัทย่อยของ GWTE
สำหรับโครงการที่เข้าลงทุน ได้แก่
บริษัทฯ เล็งเห็นศักยภาพในการเติบโตของโครงการในระยะยาว และเชื่อมั่นว่าการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในครั้งนี้จะช่วย เสริมสร้างความคล่องตัวในการบริหารจัดการโครงการให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมทั้งหมด 12 โครงการ ได้ลงนามในสัญญาชื่อขายไฟฟ้ากับ กฟภ. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 2570
ส่วนโครงการโรงงานผลิตเชื้อเพลิงจากขยะอุตสาหกรรม มีกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปีเดียวกัน
ทั้งนี้คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มีมติเห็นชอบหลักการการรับซื้อไฟฟ้าและอัตรารับซื้อไฟฟ้าจากขยะ
อุตสาหกรรมในรูปแมน Fคลd in Tariff (FiT) ตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2561-2580 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 (PDP2018 Rev.1) ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาดของประเทศ
สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของบริษัทกัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ ในการเพิ่มสัดส่วนกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน เพื่อลดการปล่อยก๊าชเรือนกระจกและมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ควบคู่กับการบริหารจัดการขยะอุตสาหกรรมอย่างมีประสิทธิภาพผ่านการสร้างมูลค่าเพิ่มจากของเสีย ตลอดจนสนับสนุนนแนวนโยบายของภาครัฐในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียนและเศรษฐกิจสีเขียว (Bio Circular Green Economy: BCG)