นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า แนวคิด Negative Income Tax ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่อยู่ในความคิดของนักเศรษฐศาสตร์มานานกว่า 56 ปีแล้ว สิ่งที่ทำให้แนวคิดนี้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้จริงในอดีตคือการขาดฐานข้อมูลที่ครบถ้วนและเชื่อมโยงกัน
"วันนี้ข้อมูลที่พร้อมจะทำ Negative Income Tax อยู่ใน Data Lake ของกระทรวงการคลัง" นายลวรณกล่าว ชี้ให้เห็นว่าการสร้างคลังข้อมูลขนาดใหญ่ (Data Lake) ของกระทรวงเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้นโยบายนี้เป็นไปได้ในทางปฏิบัติ
ภาษีเงินได้ติดลบเป็นแนวคิดที่ผสมผสานระบบภาษีและสวัสดิการเข้าด้วยกัน โดยมีหลักการพื้นฐานคือ:
ระบบนี้จะทำให้การจัดสรรสวัสดิการมีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น เงินช่วยเหลือจะถูกจ่ายให้กับผู้ที่มีรายได้ไม่เพียงพอตามเกณฑ์ที่ได้กำหนดไว้ โดยปริมาณความช่วยเหลือจะลดหลั่นตามระดับรายได้
การนำ Negative Income Tax มาใช้จะก่อให้เกิดประโยชน์หลายประการ:
กระทรวงการคลังมีฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่รู้จักคนไทยมากถึง 60 ล้านคน ทำให้สามารถประเมินสถานะทางการเงินของประชาชนได้อย่างแม่นยำ ผ่านข้อมูลหลากหลายมิติ เช่น:
ด้วยฐานข้อมูลที่ครอบคลุมนี้ ทำให้การคัดกรองผู้ที่ควรได้รับความช่วยเหลือทำได้อย่างมีประสิทธิภาพและเที่ยงตรงมากขึ้น
กระทรวงการคลังมีทีมงานที่กำลังพัฒนาระบบ Negative Income Tax อย่างเข้มข้น โดยวางแผนการดำเนินงานเป็นขั้นเป็นตอน:
Negative Income Tax ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการรับมือกับความท้าทายด้านงบประมาณในอนาคต โดยเฉพาะเมื่อประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ ซึ่งจะมีผู้เสียภาษีน้อยลงแต่ผู้ต้องการสวัสดิการมากขึ้น
ระบบนี้จะช่วยให้การจัดสรรงบประมาณด้านสวัสดิการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เงินแต่ละบาทของภาษีจะถูกใช้อย่างคุ้มค่า และช่วยเหลือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างแท้จริง
"การบริหารจัดการงบประมาณจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะเรารู้จักคนไทยมากขึ้น มีรายได้เพียงพอก็เสียภาษีครับ มีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ รัฐบาลจำเป็นต้องไปเติมเต็มคุณภาพชีวิตของเขา" นายลวรณกล่าว
Negative Income Tax ไม่ใช่เพียงเครื่องมือทางการคลัง แต่เป็นกลไกที่จะช่วยสร้างสังคมที่เป็นธรรมและยั่งยืน สะท้อนวิสัยทัศน์ของกระทรวงการคลังในยุคดิจิทัลที่พร้อมนำเทคโนโลยีและข้อมูลมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนทุกคน
นับเป็นอีกก้าวสำคัญของกระทรวงการคลังที่กำลังเปลี่ยนแปลงระบบการคลังของประเทศให้ทันสมัย มีประสิทธิภาพ และสามารถรองรับความท้าทายในอนาคตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน