“IRPC” จ่อขายหุ้นกู้-หุ้นกู้ดิจิทัลให้นักลงทุนทั่วไป ดอกเบี้ย 3.70 – 4.35%

17 ก.พ. 2568 | 11:00 น.
อัปเดตล่าสุด :17 ก.พ. 2568 | 11:00 น.

“IRPC” เตรียมเสนอขายหุ้นกู้-หุ้นกู้ดิจิทัลให้นักลงทุนทั่วไป อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.70 – 4.35% เดือนมีนาคม 2568 ระบุได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ A- จากทริสเรทติ้ง จำกัด

นายเทอดเกียรติ พร้อมมูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้และหุ้นกู้ดิจิทัล ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จำนวน 5 รุ่น ให้แก่ประชาชนเป็นการทั่วไป ประกอบด้วย 

  • หุ้นกู้อายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ย  3.70 – 3.80% ต่อปี 
  • หุ้นกู้อายุ 6 ปี อัตราดอกเบี้ย  4.00 – 4.10% ต่อปี 
  • หุ้นกู้อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.15 – 4.25% ต่อปี 
  • หุ้นกู้อายุ 9 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.25 – 4.35% ต่อปี 
  • หุ้นกู้ดิจิทัลอายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.85 – 3.95% ต่อปี 

ทั้งนี้ IRPC จะประกาศอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนให้ทราบในเดือนมีนาคมนี้ โดยหุ้นกู้ทั้งหมดมีกำหนดชำระดอกเบี้ยทุก 6 เดือน ตลอดอายุของหุ้นกู้ 

และคาดว่าจะเปิดจองซื้อในวันที่ 20-21 และ 24 มีนาคม ผ่านธนาคารพาณิชย์และบริษัทหลักทรัพย์ทั้ง 10 แห่ง ซึ่งได้รับแต่งตั้งเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้

IRPC ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ A-  แนวโน้ม คงที่ และหุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ A- จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568  โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงมุมมองของทริสเรทติ้งที่มีต่อบริษัท ในฐานะบริษัทย่อยที่มีความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.)  ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ IRPC 

นายเทอดเกียรติ กล่าวว่า ปี 2567 IRPC สามารถสร้างรายได้และมูลค่าเพิ่มจากโครงการ Ultra Clean Fuel (UCF) ที่ดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ตั้งแต่เดือนเมษายน โดยผลิตและจำหน่ายน้ำมันดีเซลมาตรฐานยูโร 5 และน้ำมันอากาศยาน Jet A-1 ตามมาตรฐานสากล JIG (Joint Inspection Group) เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมการบินทั่วโลก

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งพัฒนานวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีชนิดพิเศษ (Specialty Products) เพิ่มขึ้น 36% เพื่อตอบโจทย์ตลาดที่มีศักยภาพสูง เช่น กลุ่มการแพทย์ ยานยนต์ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ 

รวมถึงขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ และบริษัทฯ ยังได้เพิ่มกำลังการผลิต Floating Solar เฟส 2 อีก 8.5 เมกะวัตต์ รวมทั้งการบริหารจัดการทรัพย์สิน เพื่อสร้างรายได้เพิ่มให้กับบริษัทฯ โดยได้วางแผนจำหน่ายหรือให้เช่าพื้นที่ในเขตประกอบการเพื่อรองรับการลงทุนโครงการใหม่ ๆ รวมถึงการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนที่ดินของบริษัทฯ เพื่อเสริมศักยภาพด้านพลังงานสะอาด