TRUE เข้าเทรด 3 มี.ค.66 ลุ้นเข้า MSCI ดันอัพไซด์

02 มี.ค. 2566 | 14:40 น.

TRUE เข้าเทรด 3 มี.ค. 66 โบรกชี้ 3 ปัจจัยหนุน จับตากลุ่มซีพี และ Telenor ถือหุ้นเพิ่มฝ่ายละ 29% ลุ้นเข้า MSCI ดันราคาหุ้นอัพไซด์ต่อ ให้ราคาแนะนำที่ระดับ 10.32 บาทถึง 10.40 บาท

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แจ้งว่า ตามที่ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) และบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUEE) ได้ดำเนินการควบบริษัท และนายทะเบียนบริษัทมหาชนจำกัด รับจดทะเบียนควบบริษัทแล้ว

ส่งผลให้บริษัทดังกล่าวสิ้นสภาพจากการเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย และบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) จะรับโอนทรัพย์สิน หนี้สิน สิทธิหน้าที่ และความรับผิดชอบทั้งหมดของทั้งสองบริษัท

โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 171 (4) และ 171 (1) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ สั่งเพิกถอนหลักทรัพย์ DTAC และ TRUEE จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน

พร้อมรับหลักทรัพย์ของ TRUE เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ตั้งแต่วันที่นายทะเบียนรับจดทะเบียนการควบบริษัท ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 66 (มีผลในระบบการซื้อขายตั้งแต่วันที่ 2 มี.ค. 2566) และเริ่มซื้อขายได้ตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค. 2566 

อย่างไรก็ตามในช่วงที่ผ่านมาระหว่างการดำเนินการแลกหุ้นของทั้งสองบริษัทนั้น บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่นได้เปลี่ยนใช้ชื่อย่อหุ้นชั่วคราวคือ TRUEE ก่อนกลับมาใช้ชื่อย่อเก่า TRUE หลังควบรวมบริษัทเสร็จสิ้น

ทั้งนี้ TRUE จะเข้าซื้อขายในหมวดธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จำนวนหุ้นจดทะเบียน 34,552,100,801 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 4.00 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า TRUE ยังคงเป็นหุ้นเด่น โดยมีราคาแนะนำอยู่ที่ 10.32 บาท บนปัจจัยหนุน 3 ประการที่จะผลักดันราคาหุ้นของบริษัท TRUE ให้สูงขึ้นหลังจากจดทะเบียนใหม่

ประการแรก กลยุทธ์ทางบัญชีบ่งขี้ถึงการทำกำไรของ TRUE ได้ทันทีหลังจากเสร็จสิ้นการรวมกิจการ

ประการที่สอง เครือเจริญโภคภัณฑ์ (CPG ) และ Telenor อาจมีแรงจูงใจในการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน TRUE อีกฝ่ายละ 29%

ประการสุดท้าย TRUE น่าจะมีคุณสมบัติที่จะเป็นสมาชิกของ SET50 และ MSCI ด้วยซึ่งจะผลักดันอุปสงค์หุ้นจากนักลงทนุสถาบัน

อ่านเพิ่ม : บทวิเคราะห์บล.กสิกรไทย 

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) แนะนำ "ซื้อ" หุ้น TRUE พร้อมให้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566 ที่ 10.40 บาทต่อหุ้น โดยในเชิงกลยุทธ์นักลงทุนที่แปลงเป็นบริษัทใหม่จะยังมีการอัพไซด์ประมาณ +/- 20% เทียบกับราคาเหมาะสม จึงแนะนำให้ถือต่อ

ทั้งนี้ คาดกำไรปกติของ TRUE ในปี 2566-2568 ที่ 3,500 ล้านบาท, 12,000 ล้านบาท และ 14,000 ล้านบาท ตามลำดับ

นอกจากนี้ผลประกอบการของ TRUEE และ DTAC ยังมีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการทำรวมกิจการ (Amalgamation) ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว

ดังนั้นผลขาดทุนในปี 2565 จึงไม่ใช่ผลประกอบการที่แท้จริงของ TRUE ที่จะเข้าเทรดในวันที่ 3 มี.ค.66 และหากตัดรายการดังกล่าวออก TRUE ควรมีกำไรในปี 2565