LHFGตั้งเป้าปี66พอร์ตสินเชื่อโต10%คุมหนี้เสียต่ำ 2.5%

02 มี.ค. 2566 | 07:23 น.

แอลเอชแบงก์ ชูกลยุทธ์ปี 2566 รุกขยายพอร์ตสินเชื่อกลุ่ม Higher yield เน้นฐานลูกค้ารายย่อยเติบโตผ่าน Digital Platform แจงปี 2565 กำไรเติบโต 14% เอ็นพีแอลต่ำ2.09%

นายฉี ชิง-ฟู่ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ LHFG กล่าวว่า

ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2566 มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องราว 3.7% โดยได้แรงหนุนจากภาคการท่องเที่ยวการจ้างงานและการลงทุนภาคเอกชนที่ปรับตัวดีขึ้น และคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะทยอยปรับลดลงตามราคาพลังงาน 

อย่างไรก็ตาม ยังต้องเฝ้าระวังปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่อาจกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย เช่น การฟื้นตัวของรายได้ภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจบางกลุ่มที่เปราะบาง การดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของประเทศคู่ค้าหลัก

โดยเฉพาะสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป รวมถึงความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์จากความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน 

กลยุทธ์ปี 2566 ของกลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินและการลงทุนที่ครบวงจรเหมาะสมกับสถานการณ์และจังหวะการลงทุนให้กับลูกค้าผ่าน Digital Platform 

รวมถึงกลยุทธ์การ Synergy ภายในกลุ่มธุรกิจทางการเงินและ CTBC บริษัทแม่ของกลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เพื่อร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม

นางสาวชมภูนุช ปฐมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH Bank กล่าวว่า กลยุทธ์ของธนาคารปี 2566 มุ่งเติบโตในพอร์ตสินเชื่อภาพรวม 8-10%โดยเน้นกลุ่มที่สร้างผลตอบแทนที่ดี ( Higher yield) ที่มีการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม รวมถึงการ Cross selling ผลิตภัณฑ์ของธนาคาร 

ขณะเดียวกันธนาคารเดินหน้าขยายฐานกลุ่มลูกค้าไต้หวัน โดยคาดว่าจะเพิ่มยอดสินเชื่อคงค้างเป็นจำนวน 1.5หมื่นล้านบาทโดยเพิ่มขึ้นราว 5,000ล้านบาทคิดเป็นการเติบโต 55%จากสิ้นแก่อนที่มีอยู่ราว 9,000ล้านบาท
รวมถึงการขยายสินเชื่อในธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ (Trade Finance) ธนาคารเริ่มเห็นการย้ายฐานการผลิต หรือธุรกรรม Trade finance ซึ่งมีสัญญาณการเติบโตเพิ่มขึ้นจากจีนเปิดประเทศ  แม้ว่าแนวโน้มตลาดการส่งออกอาจชะลอตัว

ในส่วนรายได้ค่าธรรมเนียม (Fee Based Income)นั้น ธนาคารตั้งเป้าจะเติบโตที่ 10%   นอกจากนี้ ธนาคารเตรียมงบประมาณ 1,200 ล้านบาท เพื่อการลงทุนพัฒนาศักยภาพด้านดิจิทัลเพื่อเพิ่มช่องทางรองรับการขยายฐานลูกค้าให้ไปสู่ช่องทางดิจิทัลเพิ่มขึ้น2-3เท่าจากฐานลูกค้าที่มีอยู่ประมาณ 1แสนรายในปัจจุบัน

 "ปี2566 ธนาคารตั้งเป้าสินเชื่อเติบโต 8-10% เน้นความระมัดระวังไม่เติบโตแบบก้าวกระโดด โดย พยายามเจาะกลุ่มลูกค้าไฮยิวเช่นลูกค้ารายย่อยเช่น สินเชื่อบ้านที่จะเพิ่มพันธมิตร
หลายรายขึ้นทั้ง ขยายพื้นที่นอกกรุงเทพฯ ขณะเดียวกันปีนี้จะใช้ platform ในการขยายสินเชื่อ และเพิ่มฮับในต่างจังหวัดอีก 9 ฮับ
รวมถึงฐานลูกค้า SMEที่มีความเสี่ยงต่ำ  และพยายามควบคุมเอ็นพีแอลให้อยู่ในระดับต่ำกว่า2.5%"

ผลการดำเนินงานปี 2565 กลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มีกำไรสุทธิ 1,579 ล้านบาท หรือเติบโต 14.1% เมื่อเทียบกับปี 2564 ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ย

 สำหรับด้านการขยายตัวของสินเชื่อเติบโต 23% ซึ่งเติบโตทุก Segments โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้ารายย่อยมีอัตราการเติบโตสูงกว่า 47% กลุ่มลูกค้า SME เติบโต 35% และกลุ่มลูกค้าไต้หวันเติบโตสูงถึงร้อยละ 95 และระดับ NPL ต่ำที่ 2.09%ลดลงจากปีที่แล้วที่ 2.4% 

ทั้งนี้ ธนาคารได้ตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ เพื่อรองรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นของลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ NPL Coverage อยู่ที่ 221%