svasdssvasds
logo-pwa

เพิ่ม thansettakij

ลงในหน้าจอหลักของคุณ

ติดตั้ง
ปิด
thansettakij

ตลาดหุ้นไทย เดือนมกราคมซื้อขายคึกคัก เฉลี่ยวันละ 7.2 หมื่นล้าน

07 กุมภาพันธ์ 2566

ตลท.เผยดัชนีหุ้นไทยเดือนม.ค. 66 ปรับตัวดีขึ้นจากสิ้นปี 65 มูลค่าการซื้อขายคึกคักเฉลี่ยวันละ 72,012 ล้านบาท หลังเศรษฐกิจไทยฟื้นตัว การท่องเที่ยว ส่งออก ที่ทยอยกลับมา

 

ตลาดหุ้นไทย  ภาพรวมในเดือนมกราคม 2566 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน ทั้งในตลาดหุ้นไทย (SET) และ mai อยู่ที่ 72,012 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2565 ที่ 56,184 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นเดือนที่ ซื้อสุทธิกว่า 18,997 ล้านบาท และมีสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายสูงสุดต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 ทำให้สิ้นเดือนมกราคม 2566 SET Index ปิดที่ 1,671.46 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 0.2% จากเดือนก่อนหน้า โดยปรับเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์อื่นในภูมิภาค และปรับเพิ่มขึ้น 5.6% เมื่อเทียบผลตอบแทนในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ

ภาพประกอบ มูลค่าการซื้อขาย

ทั้งนี้ได้รับแรงหนุนจากอุตสาหกรรมที่ได้รับอานิสงส์จากการกลับมาเปิดเมือง และกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มผลประกอบการดีในไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มบริการ และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยคาดว่าจะค่อยๆ ปรับลดลงจากระดับ 8.8% ในปี 2565 สู่ระดับ 6.6% ในปีนี้แต่ยังคงสงูกว่าระดับเป้าหมาย

ภาพประกอบ การซื้อขายของนักลงทุนต่างชาติ

อัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือนมกราคม 2566 อยู่ที่ระดับ 2.75% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ 3.00% ส่วน Forward P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือนมกราคม 2566 อยู่ที่ระดับ 16.8 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 12.6 เท่า และ Historical P/E อยู่ที่ระดับ 17.5 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 13.8 เท่า

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในปีนี้เติบโตได้ดีกว่าปีก่อน ซึ่งส่งผลดีต่อตลาดหุ้นไทยโดยเห็นได้จากยอดการซื้อขายที่กลับมาในช่วงเดือนมกราคม เพิ่มขึ้นจากในช่วงเดือนตุลาคม พฤศจิกายน และเดือนธันวาคม 2565 ที่มีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยในแต่ละเดือนอยู่ที่ 61,500 ล้านบาท

ด้านปัจจัยการจากเลือกตั้งคงยังไม่มีผลต่อดัชนีในตลาดหุ้น หรือภาพรวมของเศรษฐกิจมากนัก จนกว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาอย่างชัดเจนว่าพรรคใดจะได้เป็นรัฐบาล และต้องประเมินนโยบายของภาครัฐว่าจะกระทบต่อส่วนใดของภาคธุรกิจ และตลาดทุนทำให้เกิดผลกระทบที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับนโยบายของภาครัฐ และความแตกต่างของธุรกิจนั้นๆ

นอกจากนี้ผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยยังคงต้องติดตามปัจจัยทั้งในและต่างประเทศ ในประเด็นการเมือง และเศรษฐกิจ แต่เชื่อว่าสภาพคล่องในตลาดโลกจะไม่ลดลงรุนแรงหลังทางธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ย โดยทิศทางตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ยังคงแกว่งตัวไซด์เวย์

นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุว่า ในเดือนมกราคม 2566 มีเงินลงทุนเคลื่อนย้ายมายังตลาดหุ้นเอเชีย โดยเฉพาะตลาดหุ้นไทยหลังเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวดีต่อเนื่อง และมีข่าวดีจากการเปิดประเทศของจีน ส่งผลให้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติ และมูลค่าการส่งออกจะกลับมาขยายตัวดีอีกครั้ง ประกอบกับค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น ส่งผลให้ผู้ลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิรวมทั้งในตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรไทยกว่า 5.8 หมื่นล้านบาท

 

ภาพประกอบ การแถลงข่าว

 

ส่วนภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเดือนมกราคม 2566 ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 530,429 สัญญา ลดลง 23.1% จากเดือนก่อน จากการลดลงของ Single Stock Futures และ SET50 Index Futures

 

บริษัทเข้าจดทะเบียนใหม่ซื้อขายใน mai เดือนมกราคม 66 มี 2 บริษัท

  • บมจ. มาสเตอร์ สไตล์ (MASTER)
  • บมจ. เอส.เอ.เอฟ. สเปเชียล สตีล (SAF)