KTCตั้งเป้ายอดรูดซื้อประกันปีหน้าโต 10%
เคทีซีชี้เทรนด์ประกันปี2566 “สุขภาพ -ดอกเบี้ย “ขาขึ้น”หนุนยอดรุดปรื้ดโต 10%จากสิ้นปี2565คาดยอดใช้จ่ายกว่า 3หมื่นล้านบาท “ ชูพันธมิตรกว่า 57รายอัดแคมเปญ 0%ช่วยลูกค้าลดภาระ-ตอบโจทย์ซื้อประกันผ่านบัตรเครดิตทั้งคุ้มครองและคุ้มค่า
เคทีซีจับเทรนด์ประกันยุคใหม่ปี2566 ปรับกลยุทธ์ผนึกพันธมิตรชั้นนำ 57แห่งมอบสิทธิประโยชน์ลูกค้า ตั้งเป้ายอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตซื้อประกันโต10% รับเทรนด์ “สุขภาพ -เดินทาง-รถยนต์อีวี-สะสมทรัพย์” มั่นใจสิ้นปี 2565 ครองแชมป์อันดับหนึ่งในพอร์ต เติบโตไม่ต่ำกว่า 5%
นายสุวัฒน์ เทพปรีชาสกุล ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจประกันภายหลังสถานการณ์โควิด-19คลี่คลาย แนวโน้มรูปแบบของการประกันภัยและประกันชีวิตที่จะเกิดขึ้นใหม่ๆ ใน 4 ส่วนคือ ประกันสุขภาพ ประกันการเดินทาง ประกันภัยรถยนต์โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า(รถEV) และประกันสะสมทรัพย์
“เคทีซีตั้งเป้าเติบโต 10%สำหรับยอดการใช้จ่ายซื้อประกันผ่านบัตรเครดิต เพราะแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นและพฤติกรรมหลังโควิดทำให้คนใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้นด้วย จากปีนี้เรามีฐานบัตรรวม 2.5ล้านใบโดยประมาณ 1 ใน 5ของฐานบัตรเป็นการรูดซื้อประกันหรือคิดเป็นสัดส่วน 13%ของพอร์ตคาดว่าสิ้นปีนี้ยอดใช้จ่ายในการรูดซื้อประกันจะอยู่ที่ประมาณ 30,000ล้านบาท”
ทั้งนี้ ยอดรวมการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีในหมวดประกันภัยจะมีสัดส่วน 70%เป็นประกันชีวิต ที่เหลือจะเป็นNon-Life โดยตั้งแต่ต้นปี 2565 ยังคงเป็นหมวดที่ครองสัดส่วนเป็นอันดับหนึ่งในพอร์ตรวมของเคทีซีและมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในไตรมาสที่ 3 และ 4 เนื่องจากสถานการณ์โควิด – 19 ทำให้สมาชิกปรับพฤติกรรมและมีทัศนคติที่ดีต่อการซื้อประกันภัยมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งประกันสุขภาพ
ต่อข้อถามถึงยอดการใช้จ่ายซื้อประกันของบัตรเครดิตเคทีซีนั้น นายสุวัฒน์กล่าวว่า ฐานลูกค้าของเคทีซีจะแบ่งเป็น 3 กลุ่มตามรายได้ ได้แก่
-ผู้มีรายได้ 100,000บาทต่อเดือน (กลุ่ม A)
-ผู้มีรายได้ตั้งแต่ 40,000-99,000บาทต่อเดือน (กลุ่ม B) และ
-ผู้มีรายได้ 15,000-39,000 บาทต่อเดือนคือ กลุ่มC
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา พบว่า กลุ่มA จะเป็นกำลังหลักในการซื้อประกันก้อนใหญ่ แต่เริ่มเห็นรายที่ชำระเบี้ยประกัน 1แสนบาทต่อปีเริ่มชะลอ ส่วนหนึ่งอาจเป็นผลจากผลตอบแทนของแบบประกันสะสมทรัพย์ไม่จูงใจ แต่ส่วนใหญ่กลุ่มB และ Cยังทำวอลุ่มเป็นหลัก
นายสุวัฒน์กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากศึกษาพฤติกรรมของสมาชิกและเรียนรู้รูปแบบเทรนด์ใหม่ๆ ในแวดวงประกันภัย เคทีซีจึงได้วางกลุทธ์การตลาดแบบ Partnership Marketingซึ่งเป็นพันธมิตรหลัก 57แห่งโดย เน้นจุดแข็งในการผนึกกำลังกับบริษัทประกันภัยชั้นนำของประเทศ
ยกตัวอย่าง เอไอเอ / กรุงไทยแอ็กซ่า / ไทยประกันชีวิต / กรุงเทพประกันชีวิต / เอฟดับบลิวดีประกันภัย / เมืองไทยประกันชีวิต / เจนเนอราลี่ ประกันชีวิต / อาคเนย์ประกันชีวิต / พรูเด็นเชียลประกันชีวิต / ซัมซุงประกันชีวิต และโตเกียวมารีนประกันชีวิต มุ่งเน้นความร่วมมือเพื่อเติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกัน ด้วยการคัดสรรสิทธิพิเศษที่เข้าถึง ตอบโจทย์และตรงใจสมาชิกแต่ละกลุ่มให้มากที่สุด
นอกจากนี้ เคทีซียังได้เปิดบริการช่องทางออนไลน์ “KTC Insure+” แหล่งรวมผลิตภัณฑ์ประกันภัยจากพันธมิตรที่ครบจบในที่เดียว ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับสมาชิกยุคดิจิทัล
โดยเคทีซีไม่คิดค่าคอมมิชชันและคืนกลับสิทธิประโยชน์ให้กับสมาชิกโดยตรง รวมถึงเตรียมความพร้อมนำเสนอโปรโมชันที่หลากหลายเพื่อรองรับกับเทรนด์ใหม่ๆ อาทิ รถยนต์ไฟฟ้า EV เพื่อให้มั่นใจว่าสิ้นปี 2565 ยอดรวมการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีของสมาชิกในหมวดประกันภัยจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 5 %