"ตลท."มั่นใจหลักฐานเอาผิดฉ้อโกงหุ้น MORE ฟ้อง 18 พ.ย.นี้

17 พ.ย. 2565 | 00:39 น.

"ตลท."มั่นใจหลักฐานเอาผิดกลุ่มฉ้อโกงหุ้น MORE พร้อมส่งข้อมูลสรุปผลสอบ 18 พ.ย.นี้ ยื่นฟ้องต่อกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ยันล่าสุดมีหลักฐานเด็ดเกินกว่า 50% ซัดธุรกรรมผิดปกติ

 

ตลาดหลักทรัพย์ฯ และสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย (ASCO) โดยนายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ (ตลท.) และนายพิเชษฐ สิทธิอำนวย นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย ได้ร่วมแถลงถึงความคืบหน้า การดำเนินการกรณีหุ้น บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ MORE เมื่อวานนี้ (16 พ.ย.65 )  

 

นายภากร กล่าวว่า ขณะนี้ตลท.ได้รวบรวมข้อมูลเกินกว่า 50% พบหลักฐานสำคัญชัดเจน ว่ามีการกระทำที่ไม่ปกติ กรณีหุ้น MORE ซึ่งมั่นใจว่าวันที่ 18 พ.ย.นี้ จะสามารถสรุปและมีข้อมูลทุกอย่างที่สามารถยื่นฟ้องต่อกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เพื่อให้ตำรวจทำงานต่อไปได้    

 

" ใครที่มีข้อมูลเกี่ยวกับธรรมการซื้อขายหลักทรัพย์ MORE ที่ผิดปกติ  เราอยากให้โอกาส เปลี่ยนจาก" ผู้ต้องสงสัยมาเป็นพยานได้"  สามารถติดต่อให้ข้อมูลกับ ตลท.ผ่าน SET Contact Center ที่ 0 2009 9999 เพื่อที่ ตลท. จะทำการรวบรวม และประสานนำส่งให้แก่พนักงานสอบสวนต่อไป"

 

ตลาดหลักทรัพย์และสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย ยังยืนยันว่าที่ผ่านมา นายอมฤทธิ์ กล่อมจิตเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ถือหุ้นอันดับ 1 ของ MORE ยังไม่เคยติดต่อเข้ามาเจรจาแต่อย่างใด

 

ส่วนในวันที่ 18 พ.ย.นี้ จะมีการปลดเครื่องหมาย SP ห้ามซื้อขายหุ้น MORE หรือไม่ ยังไม่มีความชัดเจน โดยหลังจากนี้สัปดาห์หน้า ตลท.และหน่วยงานกำกับ จะร่วมกันหาวางแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดลักษณะนี้ซ้ำขึ้นอีก  

 

อ่านเพิ่ม :  ตลท.เผยผลสอบหุ้น MORE พบบัญชีต้องสงสัยหลัก 10 บัญชี ยังไม่ชัดปลด SP ศุกร์นี้

 

ทั้งนี้ หลังจากที่ตลท.ตรวจสอบความผิดปกติของการซื้อขายหลักทรัพย์มอร์ ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10-11 พ.ย.ที่ผ่านมา พบว่าสภาพการซื้อขายผิดปกติ รายละเอียดดังนี้

 


 

 

ความผิดปกติของการซื้อขายหลักทรัพย์ MORE ที่พบในวันที่ 10 พ.ย. 2565

 

  • สภาพการซื้อขายผิดปกติ โดยมีราคาปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่เปิดตลาด +4.3% จากราคาปิดในวันก่อนหน้า ด้วยมูลค่าการซื้อขายทั้งวันที่สูงมากถึง 7,143 ล้านบาท (เฉลี่ย 30 วันก่อนหน้าอยู่ที่เพียง 360 ล้านบาท) ทั้งนี้ ในช่วงที่เปิดตลาด มีปริมาณการซื้อขายสูงถึง 1,500 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าประมาณ เกือบ 4,300 ล้านบาท  

 

  • ลักษณะของการส่งคำสั่งซื้อขายที่ผิดปกติ คือ ฝั่งซื้อ พบว่า เป็นการส่งคำสั่งซื้อจากผู้ซื้อเพียง 1 รายผ่านบริษัทสมาชิกหลายแห่งที่ราคา 2.90 บาท ฝั่งขาย พบว่า มีการส่งคำสั่งขายเป็นจำนวนมากจากผู้ขายหลายรายที่ระดับราคาใกล้เคียงกับราคาเสนอซื้อ โดยมีจำนวนที่สั่งขายตั้งแต่ประมาณ 70 ล้านหุ้น/ราย ไปจนถึงประมาณ 600 ล้านหุ้น/ราย

 

  • ทันทีเมื่อเปิดตลาด ได้เกิดการจับคู่ซื้อขายกับผู้ขายหลายรายผ่านบริษัทสมาชิกหลายแห่ง หลังจากนั้น ภายในไม่ถึง 20 นาทีหลังเปิดตลาด ราคาได้ทยอยปรับตัวลงจนไปต่ำสุดที่ Floor ที่ราคา 1.95 บาท และปิดตลาดที่ราคาดังกล่าว

 

  • ฝ่ายกำกับการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้แจ้งเตือนบริษัทสมาชิกถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น


ผลกระทบที่มีต่อเนื่องมาถึงการซื้อขายหลักทรัพย์ MORE ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2565

 

  • หลังเปิดการซื้อขาย ราคาหลักทรัพย์ MORE เปิดตลาดที่ราคา Floor ในทันทีที่ราคา 1.37 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขายเบาบาง โดยลดเหลือเพียง 134 ล้านบาท จากกว่า 7,000 ล้านบาทในวันก่อนหน้า