ส่องกำไรกลุ่ม ปตท.7 บริษัท ไตรมาส 3/65 "วูบ 62% "

11 พ.ย. 2565 | 03:55 น.

เผยผลดำเนินงาน "กลุ่ม ปตท." 7 บริษัท กำไรสุทธิไตรมาส 3 /65 รวม 1.82 หมื่นล้านบาท ลดลง 62.30% ขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน-ค่าการกลั่นลดลง และ อัตราแลกเปลี่ยน ฉุดให้กำไร 9 เดือนแรกปีนี้อยู่ระดับ 1,68 แสนล้านบาทลดลง 9.33%

 

"ฐานเศรษฐกิจดิจิทัล" รวบรวม ผลดำเนินงานไตรมาส 3/2565 ของบริษัทในกลุ่ม ปตท.รวม 7 บริษัท ประกอบด้วย บมจ.ปตท. (PTT) , บมจ. ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) , บมจ.ไทยออยล์(TOP), บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) , บมจ. ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) , บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) และ บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC ) มีรายได้จากการขายรวมอยู่ที่ 1,603,683 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิรวม 18,167 ล้านบาท ลดลง 62.30% จากช่วงเดียว ไตรมาส 3/ 2564 ที่มีกำไรอยู่ที่ 48,188  ล้านบาท ขณะที่ 9 เดือนแรกปี 2565 มีกำไรสุทธิรวม 168,558 ล้านบาท ลดลง 9.33% จากช่วงเดียวกันของปี 2564 ที่มีกำไรสุทธิ 185,898 ล้านบาท 

 

 

ส่องกำไรกลุ่ม ปตท.7 บริษัท ไตรมาส 3/65 "วูบ 62% "

 

 

โดยกลุ่มปตท.ไตรมาส 3 /2565 ( ตารางประกอบ ) กำไรลดลง ส่วนใหญ่เป็นผลจากการขาดทุนสต๊อกน้ำมันเพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันดิบปรับลง และค่าการกลั่นลดลง ทั้ง  TOP - PTTGC - IRPC- OR และ GPSC  ขณะที่ PTT ยังขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน มีเพียง PTTEP ที่มีกำไรโดดเด่น ไตรมาส 3/2565 กำไรสุทธิ 24,171.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 153% และงวด 9 เดือน มีกำไรสุทธิรวม 55,290.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 96% 

 

ล่าสุด บมจ.ปตท. (PTT) รายงานผลดำเนินงานงวดไตรมาสที่ 3/2565 มีกำไรสุทธิเพียง 8,884 ล้านบาท ลดลง 14,769 ล้านบาท หรือประมาณ 62.4% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิ 23,653 ล้านบาท ขณะที่ 9 เดือนแรกปีนี้มีกำไร 73 303 ล้านบาท ลดลง 9.30% จากกำไรจำนวน 80,819 ล้านบาทในช่วงเดียวกันปีก่อน

 

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. (PTT) เปิดเผยในงวด 9 เดือนแรกของปี 2565 บริษัทมีรายได้ 2,570,029 ล้านบาทและมีกำรสุทธิลดลง 9.3% เนื่องจากขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์ ภาษีเงินได้ และขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เพิ่มขึ้น

 

อ่านเพิ่ม :  "ปตท."เผย 9 เดือนกำไรหดเหลือ 7.3 หมื่นล. ขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน

 

สำหรับกำไรสุทธิ 9 เดือนแรกจำนวน 73,303 ล้านบาท มาจากผลการดำเนินงานของ ปตท. คิดเป็น 13% ซึ่งลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากธุรกิจก๊ซธรรมชาติ ที่ต้นทุนราคาก๊าซธรมชาติปรับสูงขึ้นมาก และอีก 87% มาจากผลการดำเนินงานของบริษัทในเครือปตท. ประกอบด้วยธุกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม 49% ธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐานและบริษัทย่อยอื่นๆ 24% ธุกิจน้ำมันและค้าปลีก 11% สำหรับธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นมีสัดส่วนเพียง 3% โดยผลการดำเนินงานได้รับผลกระทบจากขาดทุนสต็อกน้ำมันที่เพื่มขึ้นมากตามทิศทางราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงตามความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกฤดถอย

 

 

แนะ"ซื้อ"ลงทุนระยะยาว ราคาเป้าหมาย 42-48 บาท 

 

ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเชียพลัส ( ASPS) ระบุในบทวิเคราะห์ล่าสุด (11 พ.ย.65) ว่าราคาหุ้น PTT สะท้อน ผลดำเนินงานไตรมาส 3/65 ที่ย่ำแย่แล้ว สะสมรอฟื้นตัว

 

บมจ.ปตท. (PTT) รายงานกำไรสุทธิไตรมาส3 /65 เท่ากับ 8.9 พันล้านบาท ลดลง 77.7% (qoq ) ต่ำกว่าคาด ถูกกดดันจากกำไรปกติที่ลดลง 72.9% (qoq )มาอยู่เพียง 1.1 หมื่นล้านบาท ตามธุรกิจหลักก๊าซฯของ PTT ที่มีกำไรลดลงมีนัยฯ จากต้นทุนเนื้อก๊าซฯที่เพิ่มขึ้นมาก ตามราคา LNG 

 

รวมถึงถูกกดดันจากธุรกิจปิโตรเคมี และโรงกลั่นที่ส่วนแบ่งกำไรลดลง มีเพียง PTTEP ที่กำไรเติบโต QoQ สำหรับแนวโน้มกำไรปกติ ไตรมาส 4/65 คาดจะเห็นการฟื้นตัวจากไตรมาส 3/65 ตามต้นทุนก๊าซ LNG ที่เริ่มปรับตัวลดลง ทำให้กำไรจากธุรกิจก๊าซฯน่าจะดีขึ้น เช่นเดียวกับโรงกลั่นที่น่าจะฟื้นตัวตามฤดูกาล ส่วน PTTEPกำไรน่าจะทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่อง ปรับลดประมาณการสะท้อน งบไตรมาส 3/65 ที่ย่ำแย่

 

ประเมินมูลค่าพื้นฐานสิ้นปี 2566 อยู่ที่ 48 บาทต่อหุ้น แนะนำซื้อลงทุนระยะยาว จากกำไรที่แข็งแกร่งจากการเป็น holding company อีกทั้งช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นlaggard กลุ่มฯอยู่มาก รวมถึงมีการจ่ายปันผลในระดับที่ดี Yield กว่า 5% ต่อปี

 

บล.กรุงศรี จำกัด  ประเมินผลดำเนินงานของ PTT ว่า ผลประกอบการที่ออกมา ต่างจากประมาณไว้ เป็นเพราะผลการดำเนินงานของ ธุรกิจปิโตรเคมี และ โรงกลั่น (P&R) กับน้ำมัน และค้าปลีก อ่อนแอลง นอกจากนี้ ผลการดำเนินงานของธุรกิจก๊าซก็อ่อนแอ เพราะปริมาณยอดขายก๊าซลดลง (-5% qoq), ต้นทุนก๊าซเพิ่มขึ้น, ราคาผลิตภัณฑ์อ้างอิง (HDPE) ลดลง, และมีการปิด GSPs 


อย่างไรก็ดี มองแนวโน้มผลการดำเนินงานจะดีขึ้นในไตรมาส 4/65 เพราะราคาน้ำมันสูงขึ้น  ซึ่งจะช่วยหนุนผลการดำเนินงานของธุรกิจ P&R กับธุรกิจ น้ำมัน และค้าปลีก ส่วนธุรกิจก๊าซน่าจะยังอ่อนแอตามยอดขายก๊าซที่อ่อนแอตามฤดูกาล, ต้นทุนก๊าซที่สูง และยังมีผลขาดทุนต่อเนื่องจากธุรกิจ NGV ในขณะเดียวกัน เราคาดว่า utilization ของ GSPs น่าจะดีดตัวขึ้นมาอยู่ที่ 78-80% จาก 69.6% ในไตรมาส 3

 

แนะนำซื้อ และประเมินราคาเป้าหมายที่ 42 บาท ราคาเป้าหมาย SoTP ของเราคิดเป็น PE ปี FY23F ที่ 9.3x ในขณะที่ราคาหุ้น PTT ในปัจจุบันมี discount จาก NAV ถึง 38% ซึ่งสูงกว่า discount เฉลี่ยในรอบหกปีที่ผ่านมาที่ 15%
 

 

ด้านนักวิเคราะห์ บมจ.บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย หรือ KS มองแนวโน้ม PTT ไตรมาส 4/2565 ดีขึ้นจากต้นทุนก๊าซที่ลดลง ผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันพลิกเป็นกำไร และขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนน้อยลง  แต่ความเสี่ยงต่อประมาณการปี 2565 เป็นขาลง

 

คงแนะนำ “ซื้อ” จากราคาน้ำมันดิบที่มีแนวโน้มสูงขึ้น จากการลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปค ในเดือน พ.ย. อาจเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นในระยะสั้น ยังคงราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ที่ 46.00 บาท