ธนชาตประกันภัยมั่นใจสิ้นปี65 เบี้ยรับ 1หมื่นล้านบาท

23 ต.ค. 2565 | 11:29 น.

ธนชาตประกันภัยปลื้ม 8เดือนเบี้ยรับรวมกว่า 6,600ล้านบาท เติบโต 24% คาดว่าทั้งปี 65 เบี้ยประกันภัยรับรวมได้ 10,000 ล้านบาท

ธนชาตประกันภัย ย้ำศักยภาพองค์กรแข็งแกร่งทางการเงิน ภายใต้หลักธรรมาภิบาลที่ดี ดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม มุ่งตอบโจทย์ทุกความต้องการและได้รับความวางใจลูกค้ากว่า 1 ล้านราย ส่งให้ผลประกอบการ 8 เดือน มีเบี้ยรับรวมกว่า 6,600ล้านบาท เติบโต 24% คาดว่าทั้งปี 65 จะสร้างเบี้ยประกันภัยรับรวมได้ที่ 10,000 ล้านบาท

 

นายพีระพัฒน์  เมฆสิงห์วี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า  บริษัทมีนโยบายในการเดินหน้าพัฒนางานบริการด้วยเทคโนโลยีและสร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ประกันภัยและทำอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ด้านประกันภัยที่ดีที่สุด โดยปัจจุบัน บริษัทฯ ได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้าที่มอบความไว้วางใจให้คุ้มครองดูแลแล้วกว่า 1 ล้านราย

 

ขณะที่ผลประกอบการในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา มีเบี้ยประกันภัยรวมกว่า 6,600 ล้านบาท เติบโต 24% และคาดว่าทั้งปี 2565 บริษัทจะสามารถสร้างเบี้ยประกันภัยรับรวมได้ที่ 10,000 ล้านบาทตามเป้าหมายอย่างแน่นอน

 

ล่าสุด บริษัทฯ ได้รับรางวัล  “บริษัทประกันวินาศภัยที่มีการบริหารงานดีเด่น อันดับที่ 2” จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ในงานมอบรางวัลประกันภัยดีเด่นครบวงจร (Prime Minister’s Insurance Awards) ประจำปี 2565

สำหรับ รางวัลนี้ธนชาตประกันภัย ได้รับมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 ในฐานะการเป็นบริษัทที่มีการบริหารงานอย่างมืออาชีพ มีศักยภาพการดำเนินงาน มีฐานะทางการเงินที่มั่นคง และมีธรรมาภิบาลเป็นเลิศ

 

ปัจจัยความสำเร็จที่ทำให้ธนชาตประกันภัยได้รับรางวัลบริษัทที่มีการบริหารงานดีเด่น และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า มาจากการที่บริษัทฯ มีความมั่นคงทางการเงินสูง โดยได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงินที่ระดับ "AA-" จากทริส เรทติ้ง

 

โดยมีการบริหารจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ ให้ความสำคัญกับการยกระดับคุณภาพการให้บริการ ส่งเสริมและพัฒนาตัวแทนและนายหน้าประกันภัย รวมถึงการให้ความช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยที่ถูกหลอกเสนอขายกรมธรรม์เพื่อรักษาภาพลักษณ์ที่ดีของธุรกิจประกันภัยวินาศภัย

 

รวมถึงการปรับทิศทางการดำเนินธุรกิจโดยพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการตอบสนองความเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว จนสามารถรักษาความสามารถการแข่งขันในตลาดประกันภัยไว้ได้อย่างมั่นคง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ประกันภัยรถยนต์ปี 2564 มีสัดส่วนการขายสูงถึง 84%