จับทิศหุ้นไทยสัปดาห์หน้า "เฟดขึ้นดอกเบี้ย -โฟลว์" กดดันตลาด

18 ก.ย. 2565 | 00:59 น.

บล.กสิกรไทย ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า (19-23 ก.ย.) คาดดัชนี SET แกว่งกรอบ 1,600-1,655 จุด จับตาประชุมเฟด -โฟลว์-ตัวเลขเศรษฐกิจ

 

บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด (KS )ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า (19- 23 ก.ย.) ดัชนี SET (SET index ) มีแนวรับที่ 1,610 และ 1,600 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,645 และ 1,655 จุด ตามลำดับ 

 

โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 20-21 ก.ย.นี้ , รวมถึงทิศทางเงินทุนต่างชาติ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน ยอดขายบ้านมือสองเดือนส.ค. ดัชนี PMI เดือนก.ย. (เบื้องต้น) รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์  ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ การประชุม BoE และ BoJ ดัชนี PMI เดือนก.ย. (เบื้องต้น) ของยูโรโซน ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนส.ค. ของญี่ปุ่น ตลอดจนการกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR เดือนก.ย. ของจีน

 

 

 

จับทิศหุ้นไทยสัปดาห์หน้า "เฟดขึ้นดอกเบี้ย -โฟลว์" กดดันตลาด

 

การเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา ( 12-16 ก.ย.65) ร่วงลงเกือบตลอดสัปดาห์  โดย SET Index ขยับขึ้นช่วงสั้นๆ ต้นสัปดาห์ตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ และแรงซื้อของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ อย่างไรก็ดี ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ

 

หลังตัวเลขเงินเฟ้อเดือนส.ค. ล่าสุดของสหรัฐฯ ออกมาสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาด รวมถึงความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก หลังธนาคารโลกเตือนว่าเศรษฐกิจโลกอาจเผชิญกับภาวะถดถอยในปี 2566 นอกจากนี้ หุ้นไทยยังเผชิญแรงกดดันเพิ่มเติมจากการปรับลดน้ำหนักหุ้นไทยของดัชนี FTSE ซึ่งมีผลในวันที่ 16 ก.ย. นี้  

 

ในวันศุกร์ (16 ก.ย.) ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,630.40 จุด ลดลง 1.46% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 371,113.35 ล้านบาท หรือเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 74,222.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.10% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 1.28% มาปิดที่ 675.52 จุด
 

มูลค่าการซื้อขายแยกตามกลุ่มนักลงทุน ดังนี้

    

 

  • นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 4,998.08 ล้านบาท มูลค่าสะสมตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน สถานะซื้อสุทธิ 158,946.78 ล้านบาท
  • นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 1,984.20 ล้านบาท มูลค่าสะสมตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน สถานะขายสุทธิ 120,502.00 ล้านบาท 
  • บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 1,831.63 ล้านบาท มูลค่าสะสมตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน สถานะซื้อสุทธิ 2,639.34 ล้านบาท 
  • นักลงทุนรายย่อยในประเทศ ซื้อสุทธิ 5,150.65 ล้านบาท มูลค่าสะสมตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน สถานะขายสุทธิ 41,084.11 ล้านบาท