การเคลื่อนไหวหุ้น บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) และ บมจ.ช.การช่าง (CK) ปิดตลาดซื้อขายวันนี้ (16ก.ย.) หุ้น BEM ปรับขึ้น 0.50 บาท หรือบวก 5.49% ยืนที่ 9.60 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 2,516.40 ล้านบาท จากราคาเปิด 9.05 บาท ราคาสูงสุด 9.60 บาท ราคาต่ำสุด 9.00 บาท
ส่วนราคาหุ้น CK ( บริษัทแม่ถือหุ้นใหญ่ใน BEM 31.79% ) ปิดตลาดปรับขึ้น 0.50 บาท หรือบวก 2.25% บาท ยืนที่ 22.70 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 639.82 ล้านบาท ราคาเปิด 22.30 บาท ราคาสูงสุด 23.10 บาท ราคาต่ำสุด 22.20 บาท
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า วันนี้ราคาหุ้น CK และ BEM ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงบ่ายวันนี้ หลังจากที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ออกมายืนยันว่า BEM เป็นผู้ผ่านการประมูลทุกขั้นตอนและเป็นผู้ชนะโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) พร้อมระบุความคืบหน้าว่าจะมีการเจรจากับ BEM
ทั้งนี้ในลำดับถัดไป รฟม. และคณะกรรมการคัดเลือกฯ จะดำเนินการเชิญ ผู้ผ่านการประเมินสูงสุดดังกล่าวมาเจรจาต่อรอง ตามขั้นตอนที่ระบุในเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน (RFP) และพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 ต่อไป
อ่านเพิ่มเติม : ตามคาด “รฟม.” จ่อถก BEM เจรจาผลตอบแทน คว้าประมูลสายสีส้ม 1.4 แสนล้าน
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) มีแนวเส้นทางเชื่อมระหว่างกรุงเทพมหานครทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ระยะทาง 35.9 กิโลเมตร แบ่งเป็น
ด้านบล.เอเซียพลัส ระบุว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี ผลปรากฎ BEM ชนะ คาดเซ็นสัญญาภายในปีนี้ โดย BEM ต้องจัดหาขบวนรถเพื่อมาเดินรถในส่วนของสายสีส้มตะวันออกภายใน 3 ปี 6 เดือน นับจากวันที่แจ้งให้เริ่มงานจากการชนะประมูลครั้งนี้ ส่งผลให้เกิด Upside ส่วนเพิ่มอีก 1.70 บาท ส่งผลให้ Fair Value ใหม่เพิ่มเป็น 12.00 บาท
ธุรกิจหลักของ BEM ยังมีแนวโน้มการเติบโตที่โดดเด่น ในส่วนของผลประกอบการไตรมาส3/65 คาดTraffic ของผู้ใช้ทางด่วนและผู้โดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งจากการเปิดประเทศ และการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามามากขึ้น ประกอบกับศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์. กลับมาเปิดในวันที่ 12 ก.ย. 65 นี้ คาดหนุน Ridership ปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ด้านบล.บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์ฯ ว่า การที่ BEM เป็นผู้ชนะการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม โดยของบอุดหนุนน้อยที่สุดเพียง 7.8 หมื่นล้านบาท (กลุ่มบริษัท ITD-Incheon Transit ขอที่ 1.03 แสนล้านบาท) ซึ่งรถไฟฟ้าสายสีส้มจะประกอบด้วยสองส่วน ส่วนทางตะวันออก (17 กม. 17 สถานี จะเริ่มให้บริการในปี 68) โดยจะวิ่งตั้งแต่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ไปจนถึงมีนบุรี และทางฝั่งตะวันตก (13 กม. 11 สถานี จะเริ่มให้บริการในปี 70) จะวิ่งตั้งแต่ บางขุนนนท์ มาจนถึงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ครอบคลุมพื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่น จึงคาดจำนวนผู้โดยสารและกำไรจะแข็งแกร่งหลังเปิดให้บริการ จึงปรับประมาณการกำไรระยะยาวขึ้น 5-40% และปรับราคาเป้าหมายขึ้นจาก 10.20 บาทไปเป็น 13.50 บาท