"กำไรบจ."ทุบสถิติ Q2/65 โกย 3.46 แสนล้านบาท "พลังงาน"นำพุ่ง 116%
บล.เอเซียพลัส(ASPS) สรุปผลประกอบการ บจ. งวดไตรมาส 2/65 กำไรสุทธิรวม 3.46 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.4% QoQ และ 26.6% YoY กลุ่มพลังงานทำกำไรสูงสุด 1.43 แสนล้านบาท เพิ่ม 116% YoYและ 48% QoQ จ่อปรับประมาณการกำไรปี 65 คาดทะลุ 1.1 ล้านล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์เอเซียพลัส (ASPS) ระบุในบทวิเคราะห์ (17 ส.ค. 65) ว่า ล่าสุดบริษัทจดทะเบียน (บจ.) รายงานงบไตรมาส 2/65 ไปแล้วทั้งสิ้น 625 บริษัท (คิดเป็นสัดส่วน 99%ของ Market Cap. รวมทั้งตลาด) มีกำไรสุทธิ 3.46 แสนล้านบาท เติบโต 22.4% QoQ และ 26.6%YoY
หนุนให้กำไรงวด 2Q65 ขึ้นทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เมื่อเทียบกับกำไรสูงสุดเดิมในงวดไตรมาส1/61 ที่ 2.95 แสนล้านบาท
ฝ่ายวิจัย ฯ ระบุอีกว่า แม้นักลงทุนจะกังวลภาวะเงินเฟ้อจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการงวดไตรมาส 2/65 แต่หากวิเคราะห์ให้ลึกลงไป เป็นราย Sector พบว่า มีกลุ่มที่เติบโตทั้ง QoQ และYoY คือ ENERG,TRANS, ETRON, PF&REIT, MEDIA, FOOD, PKG, BANK, PROP, FASHION เป็นต้นโดยกำไรจากหุ้นในกลุ่มพลังงานปิโตรเคมี(กลุ่ม Energy + Petro) เท่ากับ 1.67 แสนล้านบาท เติบโตโดดเด่น 65%YoY และ 43% QoQ เนื่องจากราคาน้ำมันที่ยืนในระดับสูงหนุนStock Gain เพิ่มขึ้นเด่น
"กลุ่มพลังงาน"ทำกำไรมากสุด 1.43 แสนล้าน โต 116% YoY
ขณะที่หุ้นกลุ่มอื่นๆ ที่เหลือ กำไรเท่ากับ1.79 แสนล้านบาท ก็ยังเติบโตเด่นเช่นกัน โดยเพิ่มขึ้น 4%YoY และ 7%QoQ แม้เผชิญกับภาวะเงินเฟ้อ แต่การกลับมาเปิดประเทศหนุนกำไรกลับมาเติบโตเด่นเช่นกัน
ดันกำไรบจ.ครึ่งปี65 สูง 6.29 แสนล้าน
ดังนั้นกำไรที่เติบโตต่อเนื่อง หนุนให้กำไรครึ่งปี 2565 สูงถึง 6.29 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนกว่า 60% ของประมาณการเดิม ที่ฝ่ายวิจัย ASPS ประเมินไว้ที่ 1.04 ล้านล้านบาท (EPS65F 88.9 บาท/หุ้น) ขณะที่ฝ่ายวิจัย ASPS อยู่ในช่วงทบทวนประมาณการกำไรทั้งปีเพิ่มขึ้น พร้อมกับหนุนดัชนีเป้าหมายปรับขึ้นเช่นเดียวกัน ถือเป็น Sentiment ที่ดีต่อตลาดหุ้นหลังจากกังวลกับประเด็นกำไรจะถูกกดดันลดลงมาพักหนึ่ง
FLOW ต่างชาติไหลเข้าหุ้นไทย มากสุดเป็นประวัติการณ์
แม้ตลาดจะเผชิญกับความเสี่ยงทางด้านภูมิรัฐศาสตร์จีนไต้หวัน ตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ส.ค.65 บวกกับความเสี่ยง Recession ของประเทศฝั่งพัฒนาแล้วทั้งสหรัฐฯ ยุโรป ฯลฯ อย่างไรก็ตามประเทศฝั่งกำลังพัฒนาเริ่มเห็นการฟื้นตัวเศรษฐกิจ หรือ GDP Growth ยังเป็นบวกอยู่จึงทำให้เป็นเป้าหมาย Flow ต่างชาติในการลงทุน
โดยตั้งแต่ต้นเดือนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นในภูมิภาคราว 1566 ล้านเหรียญ (mtd) เริ่มจากเกาหลีใต้ถูกซื้อสุทธิ 1534 ล้านเหรียญ(mtd) อินโดนีเซีย 176 ล้านเหรียญ (mtd) และ ไทย 826 ล้านเหรียญ (mtd) หรือ 2.9 หมื่นล้านบาท (mtd) หนุนในปีนี้ต่างชาติซื้อหุ้นไทยไปแล้ว 1.46 แสนล้านบาท (ytd) มากสุดเป็นประวัติการณ์
โดยสถิติในอดีต ชี้ให้เห็นว่า ปีไหนก็ตามที่ต่างชาติซื้อหุ้นไทยปริมาณมาก SET Index มีโอกาสปรับตัวขึ้นเสมอ และฝ่ายวิจัยฯ จึงค้นหารายชื้อหุ้นที่ต่างชาติซื้อสะสมส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นที่อิงกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศเป็นหลัก โดยหุ้นเด่นที่ฝ่ายวิจัยฯ เห็นว่ายังมีแนวโน้มกำไรฟื้นต่อเนื่องได้ในช่วงที่เหลือของปี คือ BEM, BH,CENTEL, CRC, KTB, M เป็นต้น